3 เหตุผลที่ทำให้ Microsoft มีมูลค่าแซงหน้า Google

0
https://i.amz.mshcdn.com/xsRWiN3RaHTQ4Pz49b6o2WjHMvw=/950x534/filters:quality(90)/https%3A%2F%2Fblueprint-api-production.s3.amazonaws.com%2Fuploads%2Fcard%2Fimage%2F783223%2F21ea9d90-8954-4f1c-aa13-e949c0c2cd82.jpg

บริษัท Microsoft กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสามของโลก เป็นมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 760 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ Microsoft แซงหน้าบริษัท Alphabet เจ้าของ Google ไปประมาณ 15 พันล้านเหรียญ (สองอันดับแรกคือ Apple และ Amazon)

การเติบโตครั้งใหญ่นี้นับว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญของ Microsoft เพราะบริษัทเริ่มเห็นผลจากการลงทุนในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญจาก 3 สิ่งนี้

1. ระบบ Cloud

Microsoft มุ่งพัฒนาระบบ Cloud ซึ่งเห็นได้ชัดจากการเปิดตัว Azure ภายใต้การนำของ CEO Satya Nadella พร้อมกับการเติบโตไปพร้อมกันของฐานลูกค้าและรายได้ แม้จะเป็นคู่แข่งกับ Amazon Web Services (AWS) มาหลายปีแล้วก็ตาม เราก็คงจะได้เห็น Azure โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ จากโปรเจคใหม่ๆ เช่น Project Kinect for Azure เป็นต้น

2. การสมัครรับบริการทางออนไลน์ (Subscription)

หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่เราสังเกตได้จาก Microsoft นั้นก็คือ การเปลี่ยนการให้บริการซอฟต์แวร์เป็นโมเดลสมัครรับบริการทางออนไลน์ (subscription-based models) จากที่เมื่อก่อนถ้าคุณต้องการติดตั้ง Microsoft Office suite คุณต้องชำระเงินซื้อสด แต่ปัจจุบันนี้มี Office 365 ที่ให้ลูกค้าและผู้ประกอบการจ่ายรายเดือนแทน นับว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะมีผู้สมัครใช้บริการถึง 30.6 ล้านคนเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะที่มีลูกค้าธุรกิจแตะยอดถึง 135 ล้านต่อเดือน

กลยุทธ์นี้ไม่ได้ใช้แค่กับ Office เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกิจการอื่นอย่าง Xbox อีกด้วย โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ เติบโตตามความต้องการที่มากขึ้นของซอฟต์แวร์และบริการของ Xbox

3. การลงทุนในอนาคต

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจับตามอง คือ Microsoft จะลงทุนไปในทิศทางใด แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น AI และ Internet of Things เพราะทางบริษัทเล็งเห็นแล้วว่าตลาดนี้จะขยายตัวเร็วขึ้นมากในอนาคต

ในขณะที่ Google และ Facebook มุ่งพัฒนา AI ในระดับผู้บริโภค กลยุทธ์ของ Microsoft นั้นต่างออกไป เพราะตั้งเป้าเสนอบริการให้กับผู้ใช้บริการกลุ่มธุรกิจแทน