
ระบบการตรวจตราสอดส่องอัตโนมัติกำลังเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเมื่อบริษัทต่างๆ และนักวิจัยค้นพบวิธีใหม่ที่ใช้ระบบเรียนรู้วิเคราะห์ภาพเคลื่อนไหวได้ โปรเจคใหม่จากนักวิทยาศาสตร์จากสหราชอาณาจักรและอินเดียแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ นั่นคือ การตรวจจับพฤติกรรมความรุนแรงในฝูงชนโดยใช้หุ่นโดรนบันทึกภาพ
นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาระบบโดรนขั้นทดลองที่ใช้ AI ตรวจจับพฤติกรรมความรุนแรงในฝูงชน โดยในงานวิจัยชื่อ “Eye in the Sky” กล่าวไว้ว่า ทีมวิจัยได้ใช้โดรนเฮลิคอปเตอร์รุ่น Parrot AR ส่งวีดีโอผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อการวิเคราะห์แบบ real-time นักวิจัยได้ฝึกอัลกอริธึมระบบเรียนรู้ให้รู้จักการเคลื่อนไหวที่ใช้ความรุนแรง เช่น ชกต่อย เตะ ยิง แทง เป็นต้น และระบุไว้เมื่อปรากฏภาพในกล้องโดรน
ในทางทฤษฎี เทคโนโลยีนี้อาจช่วยตรวจจับการทะเลาะวิวาทหรือเหตุอาชญากรรมในที่สาธารณะและงานอีเว้นท์ระดับใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจพลาดเหตุการณ์ในขณะนั้นไป หรือแม้แต่ชี้เป้าวิถีกระสุนได้ ซึ่ง Amarjot Singh นักวิจัยจาก the University of Cambridge เผยว่า เหตุการณ์ระเบิดที่ Manchester Arena เมื่อปี 2560 เป็นแรงกระตุ้นให้เขาสร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้นมา และคาดว่าจะป้องกันเหตุร้ายในอนาคตได้หากกล้องวงจรปิดสามารถตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัยได้ เช่น มีคนเอากระเป๋ามาทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป
/cdn.vox-cdn.com/uploads/chorus_asset/file/11488657/Screen_Shot_2018_06_06_at_2.30.19_PM.png)
ทั้งนี้ เทคโนโลยีนี้อาจยังไม่พร้อมที่จะนำมาใช้ในความเป็นจริงได้ จากการทดลอง ทีมนักวิจัยได้ให้อาสาสมัครลองเคลื่อนไหวในพื้นที่เปิด โดยปกติแล้ว AI ตัวนี้ทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุดอยู่ที่ 94 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อมีคนจำนวน 10 คนเข้าฉากแล้ว ระบบทำงานได้เพียงแค่ 79 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายิ่งมีคนอยู่ในเฟรมมากขึ้น ระบบจะมีความแม่นยำน้อยลง ดังนั้น ระบบอาจจะเกิดความผิดพลาดได้หากนำมาใช้จริง เพราะมีปัญหาตามหาตัวคนร้ายบนถนนที่คนพลุกพล่านได้ยาก ทางทีมผู้สร้างคาดว่าจะลองใช้ระบบโดรนบินตรวจในงานเทศกาลสองงานที่ประเทศอินเดีย แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ว่าระบบจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนัก
อย่างไรก็ดี การใช้เทคโนโลยีนี้ยังมีปัญหาวนเวียนกับเรื่องของจรรยาบรรณ มีการตั้งคำถามถึงการใช้อำนาจในทางที่ผิดและความน่าเชื่อถือของระบบจดจำใบหน้า รัฐบาลอาจใช้เป็นข้ออ้างในการบันทึกภาพทางอากาศของคนทั่วไปในที่สาธารณะ และอาจตรวจจับท่าทางการคัดค้านทางการเมือง (เช่น ยกป้ายประท้วง หรือแสดงสัญลักษณ์สันติภาพ) อีกทั้งตัวเทคโนโลยีนี้ยังนำไปใช้ร่วมกับระบบกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย หรือวิธีอื่นๆ ที่สร้างภาพเต็มรูปแบบของการเคลื่อนไหวของคนๆ หนึ่ง จึงเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวที่ต้องคำนึงถึง