Walmart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกแห่งสหรัฐอเมริกาเผยบริษัทมีความตั้งใจที่จะจ้างพนักงานด้านเทคโนโลยีเพิ่มมากกว่า 2,000 ตำแหน่ง ทั้งแบบเต็มเวลาและ part-time ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อพัฒนาทั้งการให้บริการทางออนไลน์และในร้าน
Jeremy King – CTO ของ Walmart ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการจ้างพนักงานด้านเทคโนโลยีเพิ่มนี้ว่าเป็นผลมาจากการเติบโตของบริการขายของชำออนไลน์ ที่ Walmart ได้เปิดให้ลูกค้าสั่งซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์และรับของภายในร้านในรูปแบบ click-and-collect ได้ ซึ่งในปัจจุบันเปิดให้บริการอยู่ใน 1,500 สาขาทั่วประเทศ และจะขยายไปเป็น 2,100 สาขาภายในปีนี้
โดยตำแหน่งที่จะรับเพิ่มมากกว่า 2,000 ตำแหน่งนี้ประกอบไปด้วยตำแหน่งอยาก data scientist วิศวกร และ project manager ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นตำแหน่งงานใน Walmart Labs แผนกเทคโนโลยีของ Walmart ที่ปัจจุบันมาพนักงานอยู่แล้วกว่า 6,000 คน รับผิดชอบในส่วนของเทคโนโลยีสำหรับการดำเนินการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ของ Walmart
Click-and-collect นั้นเป็นบริการอำนวยความสะดวกที่เราได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆในร้านค้าปลีกและร้านขายของชำ ทว่าสำหรับห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่าง Walmart นั้น การให้บริการดังกล่าวหมายถึงการสร้างระบบการหยิบสินค้าที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับเวลาที่ถูกใช้ไปมากที่สุด รวมไปถึงระบบจัดการสต็อคเบื้องหลังที่ต้องสามารถบอกถึงสถาะของสินค้าแต่ละชิ้นและการหมุนเวียนได้อย่างทันทีทันใด ซึ่งทั้งหมดนั้นจัดว่าเป็นระบบที่ซับซ้อน และต้องใช้เทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาช่วย รวมไปถึงเทคนิคยอดนิยมอย่าง machine learning ในการเลือกวิธีการหยิบสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
บริการ click-and-collect นี้นับเป็นการปรับตัวเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Amazon ที่เมื่อปีที่ผ่านมาได้มีการเข้าซื้อแบรนด์ห้างสรรพสินค้า Whole Foods และได้มีประกาศรับสมัครงานซึ่งชี้ให้เห็นถึงแผนการในการเปิดบริการ click-and-collect หลังจากได้เปิดตัวบริการส่งของชำจาก Whole Foods ถึงบ้านภายใน 2 ชั่วโมงในบางพื้นที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
Danny Silverman หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลของ Clavis บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล e-commerce ให้ความเห็นถึงบริการ click-and-collect ว่าโดยทั่วไปแล้วไม่สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจค้าปลีกนักในการซื้อแต่ละครั้ง ทว่าการให้บริการ click-and-collect จะสร้างคุณค่าและความพึงพอใจระยะยาวให้แก่ลูกค้า
