บริษัทนิวซีแลนด์ทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ พบ Productivity เพิ่มขึ้น 24%

0

ทุกท่านอาจเคยได้ยินหรือรู้สึกกันมาบ้างว่าการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันและ 5 วันต่อสัปดาห์นั้นยาวนานจนเกินไป แต่งานวิจัยและความรู้สึกนั้นจริงแค่ไหน? Perpetual Guardian บริษัทที่ปรึกษาด้านสินทรัพย์จากนิวซีแลนด์ทดลองปรับการทำงานเป็น 4 วันต่อสัปดาห์เพื่อค้นหาคำตอบ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า การลดวันในการทำงานดังกล่าวทำให้ productivity ของพนักงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24

Andrew Barnes ผู้ก่อตั้ง Perpetual Guardian เกิดไอเดียการปรับเวลางานเป็น 4 วันนี้ขึ้นหลังจากที่เขาได้อ่านบทความในเว็บไซต์ Business Insider ที่กล่าวถึงงานวิจัยเรื่องการตั้งสมาธิในการทำงานและการทดลองเปลี่ยนระบบงานจาก 5 วันต่อสัปดาห์มาเป็น 4 วัน และอีกบทความหนึ่งจาก The Economist เกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งรบกวนที่มีต่อผลิตผลในทำงาน Barnes จึงทำการทดลองปรับเวลางานเป็น 4 วันต่อสัปดาห์ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ พร้อมทั้งได้ว่าจ้างนักวิจัย 2 รายเพื่อศึกษาผลการทดลองในครั้ง

หลัง 8 สัปดาห์ผ่านไป Perpetual Guardian พบว่าการลดวันทำงานเป็น 4 วันต่อสัปดาห์นั้นช่วยให้พนักงานในบริษัทมี productivity เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24 มีสมดุลระหว่างงานและการใช้ชีวิต (work-life balance) ที่ดีขึ้น

ผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อมีเวลาทำงานเพียง 4 วันต่อสัปดาห์ พนักงานในบริษัทสามารถใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น โดยพบว่าพนักงานมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น มาทำงานโดยหยุดหรือออกจากงานเร็วน้อยลง มีความตรงต่อเวลามากขึ้น ในขณะที่มีผลงานได้เท่ากับการทำงาน 5 วันแบบเดิม อีกทั้งยังมีการลดเวลาในการประชุมที่นับว่าเป็นกิจกรรมที่ทำลาย productivity ลงจากเดิมเฉลี่ย 2 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยเหลือเพียงครั้งละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นั้นมนุษย์มีการทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์ ก่อนจะค่อยๆลดหลั่นลงมาสวนทางกับรายได้ต่อหัว (PCI) ที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 1926 Henry Ford ผู้ก่อตั้ง Ford Motor Company ได้เริ่มตั้งมาตรฐานการทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ขึ้น และมาตรฐานนี้ก็ได้กลายมาเป็นกฎหมายในพระราชบัญญัติมาตรฐานแรงงานที่ยุติธรรม ค.ศ. 1938 สำหรับหลายๆอาชีพในเวลาถัดมา

ปัจจุบัน บริบททางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปและงานวิจัยหลายฉบับได้เริ่มเข้ามาตั้งคำถามกับธรรมเนียมการทำงาน 5 วันมากขึ้นเรื่อยๆ และเราคงจะได้เห็นการทดลองวิจัยในประเด็นดังกล่าวอีกมากในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน