Microsoft ได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการของสตาร์ทอัพ Lobe ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มที่จะสร้างโมเดล deep learning แบบ custom ได้โดยใช้เพียงหน้าจอแสดงผล visual interface ที่ไม่จำเป็นจะต้องเขียนโค้ดหรือว่าความรู้ทางเทคนิคที่เข้าใจเกี่ยวกับ AI ใดๆ โดยแพลตฟอร์ม Lobe นั้นสามารถที่จะเข้าใจท่าทางของมือ ลายมือเขียน และได้ยินเสียงเพลง ซึ่งยังมีแผนจะพัฒนาต่อๆ ไปให้กลายเป็น standalone service อีกด้วย
“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นส่วนใหญ่คือการพัฒนาระบบ AI และสร้างโมเดล deep learning นั้นจะทำได้ค่อนข้างช้าและมีกระบวนการที่ซับซ้อนถึงแม้ว่าจะมี data scientist และนักพัฒนาระบบ developer ที่มีประสบการณ์แล้วก็ตาม โดย ณ วันนี้ มีคนมากมายที่เสียเปรียบเมื่อต้องมาพบกับการเข้ามาของระบบ AI และพวกเรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนสิ่งนั้นไป” คุณ Kevin Scott ตำแหน่ง CTO ของ Microsoft กล่าว
Lobe นั้นได้จัดตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2558 ในเมืองซานฟรานซิสโกซึ่งปัจจุบันมีพนักงาน 3 คน โดย Lobe นั้นเป็นบริษัทสตาร์ทอัพลำดับที่ 3 ในเมืองซานฟรานซิสโกที่ Microsoft เข้าซื้อกิจการมา โดยต่อมาจากบริษัทที่ทำเกี่ยวกับด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) ที่มีชื่อว่า Semantics Machines เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มความสามารถของ Cortana อีกทั้งทำให้มีเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาแอปเสียงได้ดีขึ้น และเปิดศูนย์ Conversational AI center ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (University of California, Berkeley) และเมื่อเดือนมิถุนายน Microsoft ก็เข้าซื้อกิจการ Bonsai บริษัทที่ทำแพลตฟอร์มที่สามารถจัดการกระบวนการสร้างโมเดลได้อัตโนมัติ
ในการเข้าซื้อกิจการแต่ละอันนั้นเป็นการทำให้ความพยายามของ Microsoft ที่จะทำให้วิธีการสร้างโมเดล AI ได้ด้วยตัวเองนั้นมีความก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง คุณ Scott กล่าว
หากแต่การที่ Microsoft นั้นได้ยุ่งกับการเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทอื่นๆ อย่าง Google และ Apple นั้นก็ได้มีการเข้าซื้อบริษัทสตาร์ทอัพ AI มาตั้งแต่ปี 2555 แล้วโดยตามรายงานวิเคราะห์ของ CB Insight เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
