Toss ระดมทุนได้อีก 80 ล้านเหรียญ กลายเป็นยูนิคอร์นสตาร์ทอัพลำดับที่ 4 แห่งเกาหลีใต้

0

บริษัทสตาร์ทอัพ Viva Republica เจ้าของแพลตฟอร์มการเงิน Toss ประกาศถึงการระดมทุนรอบล่าสุดมูลค่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐที่ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าขึ้นถึง 1,200 ล้านเหรียญและกลายมาเป็นสตาร์ทอัพ Unicorn รายที่ 4 จากประเทศเกาหลีใต้

ชื่อของ Toss นั้นไม่ปรากฏตามหน้าสื่อไทยนักเมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันการเงินและ Payment จากจีนแผ่นดินใหญ่หรือประเทศใกล้เคียง และอาจจะน่าแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่าในปี 2015 การโอนเงินออนไลน์ในเกาหลีใต้ซึ่งมีอัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนสูงต้นๆของโลกนั้นต้องผ่านการคลิกสูงสุดถึง 37 ครั้งและใช้รหัสผ่าน 3 ชุดด้วยกัน

Toss ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2015 เพื่อขจัดความยุ่งยากนี้ โดยอนุญาตให้ผู้ใช้โอนเงินได้สูงสุด 500,000 วอน (ประมาณ 15,000 บาท) ด้วยการคลิกเพียง 3 ครั้งและพาสเวิร์ด 1 ชุดเท่านั้น

และในเวลาต่อมา Toss ก็ได้มีการเบนเข็มพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นแพลตฟอร์มทางการเงินที่ช่วยแนะนำและวางแผนทางการเงินให้กับลูกค้า ทำให้ Toss มีโมเดลธุรกิจในการเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างลูกค้าและบริการทางการเงินจากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ เราคงเคยได้ยินเรื่องราวของสตาร์ทอัพ FinTech ที่ Disrupt ธุรกิจของธนาคารมามาก แต่สำหรับ Toss แล้ว แพลตฟอร์มของพวกเขาได้เข้ามาส่งเสริมธุรกิจธนาคารได้อย่างน่าสนใจ

การระดมทุนมูลค่า 80 ล้านดอลล่าร์รอบดังกล่าวนำทีมโดย Kleiner Perkins และ Ribbit Capital จากสหรัฐผู้ออกสนามลงทุนในเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ร่วมด้วยบริษัททุนอื่นๆทั้งจากในและนอกประเทศผู้มีประสบการณ์ มูลค่าที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านเหรียญจากการลงทุนครั้งนี้ทำให้ Viva Republica ก้าวเข้าเป็น Unicorn Start-ups (สตาร์ทอัพมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญ) ลำดับที่ 4 จากประเทศเกาหลีใต้ ตามหลัง Coupang, Yello Mobile, และ Blue Hole ผู้พัฒนาเกม PUBG

Toss ยังไม่ได้เผยแน่ชัดว่าเงินระดมทุนในรอบนี้นั้นจะนำไปทำอะไร แต่ SG Lee เคยกล่าวกับสำนักข่าว TechCrunch ถึงแผนการในการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อครั้งระดมทุนซีรี่ส์ C ในปี 2017 ซึ่ง Lee กล่าวว่า Toss อาจมีการเปิดตัวในประเทศเวียดนามในปี 2019 ที่จะถึง

สถานะยูนิคอร์นของ Toss นั้นตามมาติดๆหลัง Coupang ในเดือนที่ผ่านมา และแม้ตัวเลข 4 รายอาจไม่ได้มากมายอะไรนัก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพในเกาหลีใต้และส่งสัญญาณถึงนักลงทุนนานาชาติได้เป็นอย่างดี