ประเทศเกาหลีใต้นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตสื่อบันเทิงรายใหญ่ของโลก และเมื่อปีที่ผ่านมา ช่อง Asia Economy TV ก็ได้เปิดตัว Block Battle รายการแข่งขันโปรเจกต์ Blockchain ในรูปแบบเซอร์ไววัลขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก รายการนี้เกี่ยวกับอะไรและมีการแข่งขันอย่างไร เชิญมาติดตามกันได้ ณ ที่นี้
Block Battle – Who’s The Next Satoshi? เป็นรายการแข่งขันไอเดีย Blockchain ที่เปิดรับสมัครผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลกโดยไม่จำกัดคุณสมบัติ ผู้เข้าสมัครจึงมีตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัย สตาร์ทอัพ ไปจนถึงบริษัทเทคโนโลยี Blockchain ที่มีธุรกิจอยู่ในตลาดแล้ว ในซีซั่นแรกนั้นมีทั้งหมด 5 ตอน (มีซับไตเติลภาษาอังกฤษใน YouTube 4 ตอน)
ในรายการ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องพยายามนำเสนอโปรเจกต์ Blockchain ของตัวเองให้เข้าตากรรมการซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สมาคม Blockchain เกาหลี บริษัทลงทุน Huobi บริษัททุน Neo Global Capital และเว็บไซต์แลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล OKCION ซึ่งกรรมการแต่ละท่านก็จะมีเกณฑ์การตัดสินในใจต่างๆกันไป เช่น การใช้งานจริง, Token Economy, และโอกาสทางธุรกิจ
ในระหว่างการแข่งขัน นอกจากจะทำหน้าที่ตัดสินแล้ว คณะกรรมการยังได้ให้คำแนะนำทั้งด้านเทคโนโลยี การพรีเซนต์โครงการ และการลงทุนให้กับผู้เข้าแข่งขันอีกด้วย
การแข่งขันในรายการนี้จะแบ่งออกเป็นรอบ ได้แก่ รอบคัดเลือกที่จะทำโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ (ซึ่งตรวจสอบละเอียดถึงระดับโค้ดของ Smart Contract เลยทีเดียว) รอบ Pitch สั้นๆต่อหน้ากรรมการ รอบ Battle เก็บคะแนนด้วยการนำเสนอไอเดีย Token Economy ของโครงการและการดีเบต White Paper แบบ 1 ต่อ 1 และรอบไฟนอล 5 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นการพรีเซนต์โครงการแบบเต็มรูปแบบ โดยผลการประกวดรอบสุดท้ายนั้นคิดจากคะแนนของคณะกรรมการ คะแนนจากผู้ชมในห้องส่ง ออนไลน์ และคะแนนโหวตผ่านโทรศัพท์
ผู้ชนะของรายการจะได้รับโอกาสในการลงทุนจาก Paxnet และ Hilstone Partners โอกาสในการขาย Token บนเว็บไซต์ Huobi และ OKEX รวมไปถึงการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญและโอกาสทางการลงทุนจากต่างประเทศ
ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญทุกท่านมารู้จักกับ Grabity ผู้ชนะรายการ Block Battle อย่างคร่าวๆ
Grabity – The paradigm of Internet
2 ปัญหาใหญ่ของเครือข่าย Blockchain ในปัจจุบันนั้นคือการที่เครือข่ายทำงานได้ค่อนข้างช้า และใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล (Block) ค่อนข้างมาก Grabity จึงออกไอเดียพัฒนาเครือข่ายรูปแบบใหม่ “Orbit Network” ซึ่งจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้คนเข้าร่วมกับเครือข่ายมากขึ้น และใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้ขนาดของข้อมูลที่แต่ละ Node จัดเก็บนั้นเล็กลง
เพื่อแก้ปัญหาการประมวลผลที่ช้า Grabity ใช้ Token เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน แบ่งกำลังประมวลผลให้กับเครือข่าย Blockchain ได้ผ่านแอป Planet Wallet เมื่อเจ้าของสมาร์ทโฟนไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์ พวกเขาอาจเปิดให้ Grabity ใช้ทรัพยากรในเครื่องประมวลผลของเครื่องได้
นอกจากการจูงใจเช่นนี้แล้ว Grabity ยังมีการแบ่ง Node ออกเป็นหลายระดับซึ่งจะสื่อสารระหว่างกันในวงเล็กๆก่อน ทำให้การ Sync ข้อมูลในเครือข่ายนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในส่วนของการเก็บข้อมูล Grabity มีเทคโนโลยี Genesis Hoisting ซึ่งจะบีบอัดข้อมูลขนาดใหญ่ให้เล็กลง และเทคโนโลยี Defrag Function ซึ่งจะช่วยแบ่งส่วนข้อมูลของ DApp กระจายไปเก็บในที่ต่างๆและเรียกใช้งานได้ในรูปแบบ Real-time Streaming ทำให้ไฟล์ที่ต้องจัดเก็บนั้นมีขนาดเล็กลง
ปัจจุบัน Grabity นั้นยังอยู่ในระยะเริ่มต้นการพัฒนา โดยวางแผนว่าจะมีการเปิดขาย Token GBT ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และเปิดตัวเครือข่ายต้นแบบและ SDK สำหรับการพัฒนา DApp บนเครือข่ายในช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นลำดับถัดมา
สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Grabity ได้ที่ https://grabity.io และรับชมรายการ Block Battle ซับภาษาอังกฤษได้ทาง Playlist นี้