Facebook และ Twitter เผยเมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ถึงการตรวจพบแคมเปญโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) จากรัฐบาลจีน เกี่ยวกับการชุมนุมเรียกร้องในฮ่องกง
Twitter ได้ออกมาแถลงผ่านบล็อกเมื่อวานนี้ถึงการตรวจพบและเข้าจัดการแคมเปญโฆษณาชวนชี่อจากจีนที่มีเนื้อหาหวังทำลายความชอบธรรมและจุดยืนทางการเมืองของการประท้วงในฮ่องกง โดย Twitter กล่าวว่า พวกเขาได้พบหลักฐานที่เป็นที่น่าชื่อว่าแคมเปญดังกล่าวเป็นปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน
โดยในการออกมาเปิดเผยปฏิบัติการข้อมูล (Information Operation – IO) ในครั้งนี้ ทวิตเตอร์ได้เผยรายชื่อบัญชี 936 บัญชี ซึ่งเป็นส่วนที่แอคทีฟที่สุดของกลุ่มบัญชีในเครือข่ายราว 200,000 บัญชี ที่ถูกใช้ในการแพร่กระจายข้อมูลที่พยายามบ่อนทำลายความชอบธรรมของผู้ประท้วงในฮ่องกง บัญชีเหล่านี้ละเมิดนโยบายด้านการปลุกปั่นแพลตฟอร์มของทวิตเตอร์หลายข้อ และทวิตเตอร์ได้ระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดเป็นการชั่วคราว (Suspend) เพื่อเป็นการป้องกันแล้ว
ในการนี้ ทวิตเตอร์ยังได้ทำการเผยแพร่ชุดข้อมูลทวีตของบัญชี 936 บัญชีที่เข้าร่วมในปฏิบัติการ เพื่อให้สาธารณะสามารถนำไปใช้เพื่อการศึกษาต่อไปด้วยในหน้าบล็อก
ในทำนองเดียวกัน Twitter ได้ทำการแจ้งเตือนถึงปฏิบัติการข้อมูลนี้ไปยัง Facebook และหลังจากการตรวจสอบ Facebook ตรวจพบ 7 เพจ, 3 กลุ่ม, และบัญชีผู้ใช้ 5 รายที่ถูกใช้ในการเผยแพร่ข่าวเท็จเกี่ยวกับการประท้วงและมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน โดยในเบื้องต้น Facebook ได้ทำการระงับบัญชีเหล่านี้แล้ว และจะเฝ้าระวังพฤติกรรมผิดปกติเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
สื่อโซเชียลนั้นเคยมีประวัติถูกใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข่าวลวง สร้างทัศนคติแบ่งแยก และปลุกปั่นผู้คนจำนวนมาก เช่นในกรณีการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016 และการลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรในปี 2016 ซึ่งยังคงถูกพูดถึงในฐานะอื้อฉาว การออกมาเฝ้าระวังและจัดการอย่างรวดเร็วในครั้งนี้ จึงนับเป็นนิมิตหมายอันดีถึงความตื่นตัวที่มากขึ้นจากบริษัทโซเชียลยักษ์ใหญ่ได้แสดงออกมาให้สังคมเห็น
และอีกนัยหนึ่งก็ยังเป็นกรณีศึกษาของ Information Operation ที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนอีกด้วย