
พวกเรารู้กันอยู่แล้วว่าปี 2563 นั้นเป็นปีที่มีการสั่งซื้อเครื่องพีซีกันอย่างมหาศาล และล่าสุด Intel ก็ได้ยืนยันรายงานนั้นด้วยผลประกอบการในไตรมาสสี่ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดย Intel กล่าวว่าธุรกิจเครื่องพีซีได้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 33% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ด้วยรายได้ที่เฉพาะจากโน้ตบุ๊คก็เติบโตมากกว่า 30% แล้ว
โดย Client Computing Group ของ Intel ที่ดูแลผลิตภัณฑ์เครื่องพีซีได้มีรายได้สูงถึง 10,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งสูงขึ้น 9% จากปีก่อนหน้านี้ โดยสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดคือราคาเฉลี่ยของโน้ตบุ๊คนั้นตกลงไปถึง 15% เลยทีเดียว นั่นแปลว่าคนทั่วไปต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่หลังจากที่เจอกับสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แต่ไม่ได้ต้องการที่จะจ่ายในราคาพรีเมี่ยมที่แพงเป็นพิเศษ
ยอดขายเครื่องพีซีที่แข็งแกร่งของ Intel นั้นยังมาพร้อมกับการเติบโต 39% ในแผนกเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยตัวเอง Mobileye ซึ่งช่วยให้บริษัทมีรายได้เกินคาดไปถึง 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ นอกจากนี้ บริษัทได้รายงานว่ามีรายได้ในไตรมาสสี่อยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยกำไร 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแม้ว่าตัวเลขรายได้จะตกลงมาจากปีก่อนหน้าไป 1% และกำไรตกลงไป 15% แต่บริษัทก็ยังคงเฉลิมฉลองกันได้อยู่
Source : https://www.engadget.com/intel-q4-earnings-pc-revenues-notebooks-232707825.html