กิจกรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันอย่างการเข้าออกอาคารนั้นเป็นหนึ่งกิจกรรมที่เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนจนแทบจำภาพเมื่อหลายปีก่อนไม่ได้ จากการเซ็นชื่อเข้าออก แลกบัตร การใช้บัตรผ่าน ไปจนถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่านั้น ADPT.news ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Alex Tan ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ธุรกิจ Physical Access Control ประจำภูมิภาคอาเซียน HID Global ถึงความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิด เนื่องจากโรคระบาดโควิด 19 และได้สรุปแง่มุมที่น่าสนใจจากการพูดคุย ไว้ในบทความนี้
เทคโนโลยีใหม่ๆในการดูแลระบบอาคารสถานที่
การควบคุมการเข้าออกระบบอาคารด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลได้กลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของการจัดการอาคาร ซึ่งไม่ใช่แค่การอนุมัติให้ผ่านเข้าออก แต่ยังรวมไปถึงการเก็บข้อมูล การติดตามตำแหน่งของผู้ที่เข้ามาในอาคาร และการเชื่อมต่อกับระบบอัตโนมัติต่างๆภายในอาคาร โดยคุณ Alex Tan ได้เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. ผู้ใช้งาน
การใช้บัตรเพื่อสแกนเข้าออกอาคารอาจกำลังกลายเป็นเรื่องล้าสมัย เมื่อแอปพลิเคชันสำหรับการเข้าออกอาคารกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแอปพลิเคชันประเภทนี้นอกจากจะทำหน้าที่เป็นบัตรผ่านแล้ว ยังเป็นตัวส่งสัญญาณเพื่อบอกตำแหน่งภายในอาคาร หรือยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือ Activate ระบบอัตโนมัติด้วย เช่นเทคโนโลยี iBeacon ที่สามารถระบุตำแหน่งผู้ใช้ และเมื่อผู้ใช้เดินเข้าใกล้จุด เช่น ประตู หรือห้อง แอปก็จะสามารถส่งสัญญาณให้ประตูเปิดโดยอัตโนมัติ หรือดวงไฟสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติได้
2. ผู้ดูแลอาคาร
สำหรับผู้ดูแลอาคารแล้ว 3 เทรนด์ที่ HID เห็น คือการให้ความสำคัญกับขั้นตอนการใช้งานอาคารที่สะดวกและปลอดภัย การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของลูกค้า และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของอาคาร
ขั้นตอนการใช้งานที่สะดวกและปลอดภัย และการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้านั้นเป็นสมดุล 2 ด้านที่ผู้ดูแลอาคารจะต้องบริหารให้ดี เมื่อมีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมการเข้าใช้อาคาร ตำแหน่ง และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆเพื่อนำไปวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีอย่าง AI และ Machine Learning และนำมาปรับปรุงการให้บริการอาคารให้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ก็ต้องมั่นใจด้วยว่าข้อมูลเหล่านั้นจะปลอดภัย ไม่หลุดรั่ว ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล และเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวด้วย
ในส่วนของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาคารสมัยใหม่มุ่งเป้าไปที่การลด Carbon Footprint ของตัวอาคาร ซึ่งโซลูชันการจัดการอาคารก็สามารถเข้ามาช่วยในส่วนต่างๆได้ เช่น ระบบ IoT ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินการ Optimize การให้บริการอาคารให้เหมาะสมตามข้อมูลใช้งานจริง และลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
3. เทคโนโลยีในการดูแลอาคาร
เทคโนโลยี Cloud จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นไปอีกสำหรับการดูแลอาคาร โดยสรุปแล้ว คลาวด์จะเข้ามาช่วยใน 3 ส่วนหลักคือ
- ลดต้นทุนด้านเทคโนโลยี ในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผล และบำรุงรักษาระบบ
- เป็นประตูเพื่อเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีให้บริการอยู่บนคลาวด์ ไม่ว่าจะเป็น IoT, AI, ระบบ ERP, หรือระบบวิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ระบบอยู่ในรูปแบบดิจิทัล และพร้อมสำหรับสิ่งใหม่ๆเสมอ
- ช่วยในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ด้วยมาตรฐานจากผู้ให้บริการคลาวด์
ด้วยเหตุนี้ คุณ Alex Tan จึงเชื่อว่า ความนิยมในคลาวด์จะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิดเอง ที่หลายธุรกิจเผชิญกับความกดดันและมุ่งหน้าสู่การดำเนินการในรูปแบบดิจิทัลเต็มตัว
นอกจากคลาวด์แล้ว โซลูชันในการรักษาความปลอดภัยอาคาร ยังมีแนวโน้มในการให้บริการแบบเปิดมากขึ้น เช่น API แบบเปิดที่ช่วยให้ผู้ดูแลอาคารหรือชุมชนสามารถมีแอปพลิเคชันเป็นของตัวเองที่สามารถเชื่อมต่อกับฟังก์ชันต่างๆของระบบจัดการอาคารได้ หรือช่วยให้เชื่อมต่อระบบ ERP ขององค์กรเข้ากับโซลูชันดูแลอาคารได้
COVID-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่าง
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ที่ได้พูดถึงไปในข้างต้นนั้นก็ยังอยู่ภายใต้หนึ่งเทรนด์ที่ใหญ่กว่า คือการระบาดของโรค COVID-19 ที่ทำให้ทุกอาคารต่างมองหาโซลูชันที่ลดการปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว และเป็นอัตโนมัติมากขึ้น
ในแง่นี้ เทคโนโลยีการจัดการอาคารก็สามารถประยุกต์เพื่อรับมือกับ COVID-19 ได้เช่นกัน ตั้งแต่การเข้าอาคาร ที่ต้องมีการลงทะเบียนและขอข้อมูลส่วนตัวของผู้เข้าเยี่ยม เพื่อให้สะดวกในการติดต่อกลับ ก็อาจใช้เทคโนโลยี Over-the-Air Credentialing ที่ช่วยส่งต่อข้อมูลไปยังระบบได้โดยไม่สัมผัส หรืออาจใช้โซลูชันที่มีระบบตรวจจับผู้เข้าเยี่ยม เครื่องสแกนเอกสาร บาร์โค้ด กล้องถ่ายรูป ที่เชื่อมต่อกันและช่วยเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติได้
หลังจากเข้ามายังอาคารแล้ว เทคโนโลยี iBeacon ก็สามารถช่วยผู้ดูแลอาคารติดตามเส้นทางการเดินภายในอาคาร และตำแหน่งที่อยู่ของผู้เข้าเยี่ยม ทำให้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนบริหารความหนาแน่นในตำแหน่งต่างๆของอาคารได้อย่างเหมาะสม และข้อมูลที่มีตำแหน่งที่อยู่และระบุเวลาชัดเจนยังช่วยในการสืบสวนโรค และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อ
ด้วยการนำเทคโนโลยี Internet of Things มาใช้ ทำให้โซลูชันดูแลระบบอาคารในปัจจุบันมีความสามารถที่หลากหลาย และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ COVID-19 ที่ต้องลดการสัมผัส และควบคุมการใช้พื้นที่ได้หลายรูปแบบ
HID Global มีโซลูชันพร้อมใช้งานสำหรับความต้องการหลายรูปแบบ
ก่อนจบการพูดคุย คุณ Alex Tan ได้แนะนำโซลูชันของ HID Global ให้เราได้ทราบ โดยทางบริษัทมีตั้งแต่โซลูชันสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงโซลูชันดูแลอาคารแบบครบวงจร โดยคุณ Tan ได้แนะนำว่า สำหรับธุรกิจที่ยังไม่มีโซลูชันในด้านนี้เลย อาจเริ่มจากโซลูชันพื้นฐานเช่น Seos Essential ระบบดูแลบัตรเข้าออกอาคารที่มีความปลอดภัยสูงแต่ราคาเข้าถึงได้ หรือโซลูชันชุดควบคุมที่ธุรกิจสามารถนำไปติดตั้ง และสั่งการผ่านซอฟต์แวร์บนคลาวด์หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้
หากผู้อ่านท่านใดสนใจเทคโนโลยีจาก HID Global สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.hidglobal.com