Gojek บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเรียกรถ (ride-hailing) และมาร์เก็ตเพลส Tokopedia แถลงว่า ได้รวมกลุ่มธุรกิจใหม่เป็น GoTo Group กลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ที่กำลังเชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
Andre Soelistyo จาก Gojek จะเป็น CEO ของ GoTo Group โดยมี Patrick Cao จาก Tokopedia เป็นประธานของ GoTo Group ส่วน Kevin Aluwi จะยังคงตำแหน่ง CEO ของ Gojek และ William Tanuwijaya เป็น CEO ของ Tokopedia เช่นเดิม
การรวมกลุ่มธุรกิจกันของสองบริษัทนี้จะเป็นระบบนิเวศน์ที่เป็นเอกลักษณ์และเสริมกันในระดับโลก โดยมีมูลค่าธุรกรรมรวม (gross transaction value หรือ GTV) รวมกันในปี 2563 อยู่ที่ 22 พันล้านดอลลาร์ มีธุรกรรมมากกว่า 1.8 พันล้านรายการ ตามข้อมูลเมื่อเดือนธันวาคม 2563 นั้น มีกลุ่มคนขับที่จดทะเบียนแล้วกว่า 2 ล้านคน และพาร์ทเนอร์คู่ค้ามากกว่า 11 ล้านราย และมีผู้ใช้งานต่อเดือนกว่า 100 ล้านคน ระบบนิเวศน์นี้คิดเป็น 2% ของ GDP ของอินโดนีเซีย
ข้อตกลงดังกล่าวดำเนินการมาหลายเดือนหลังจากที่ Gojek ใช้เวลาหลายไตรมาสในการศึกษาการควบรวมกิจการกับ Grab อีกคู่แข่งสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดือนที่แล้ว Gojek และ Tokopedia ก็เปลี่ยนมาขออนุมัติจากนักลงทุนที่เกี่ยวข้อง อาทิ Alibaba Group, Facebook, Google, JD.com, PayPal, Tencent, Visa ในช่วงที่เจรจาอยู่นั้น มูลค่าที่เสนอของ GoTo คือ 18 พันล้านดอลลาร์ แต่มูลค่าล่าสุดยังมิได้เปิดเผย
พันธมิตรระหว่าง Gojek และ Tokopedia สองสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียนั้นอาจช่วยให้ข้อตกลงนี้อยู่รอดต่อไปได้ ทั้งสองบริษัทนี้เคยได้ทำงานร่วมกันมาก่อนในปี 2558 เพื่อเร่งทำตลาดเดลิเวอรีอีคอมเมิร์ซโดยใช้เครือข่ายคนขับของ Gojek
William Tanuwijaya ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Tokopedia เผยว่า “การก่อตั้ง GoTo Group พิสูจน์ให้เห็นว่า คุณสามารถเชื่อในฝันของอินโดนีเซียได้ และทำให้มันเป็นจริงขึ้นมา เป้าหมายของเราคือการสร้างบริษัทให้สร้าง social impact ในวงกว้าง ยกระดับสนามแข่งขันสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการได้อย่างเท่าเทียมกันทั่วประเทศ นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเติบโตขึ้นแล้ว GoTo Group จะช่วยให้ทุกคนเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย แม้ว่าหนทางจะอีกยาวไกลกว่าจะไปถึงเป้าหมายนั้น แต่วันนี้การเดินทางร่วมกันก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว”