ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นนี้ แน่นอนว่าทุกอุตสาหกรรมต่างได้รับผลกระทบโดยทั่วกัน ไม่เว้นแม้แต่ภาคการศึกษา แต่กระนั้น ถึงแม้ว่าโรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่แพร่ระบาดของ COVID-19 จะยังไม่สามารถดำเนินการเรียนการสอนได้ปกติในห้องเรียน การเรียนรู้ของเด็กนักเรียนก็ไม่ควรถูกปิดกั้นด้วยข้อจำกัดเรื่องสถานที่และอุปกรณ์การเรียน
จุดนี้เองที่ทำให้ บริษัท BenQ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ได้นำเสนอแผนกลยุทธ์ภายใต้ Blended Learning Solution เพื่อการเรียนรู้แบบผสมผสานตอบสนองยุคแห่งอนาคต พร้อมนำเสนอรูปแบบการเรียนการสอนร่วมกับจอภาพ Interactive Flat Panel (IFP) หรือ กระดานอัจฉริยะ เครื่องมือเพื่อการศึกษาตอบโจทย์การประยุกต์ใช้งานในทุกระดับชั้นเรียนแบบ New Normal
คุณวัชรพงษ์ วงษ์มา รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ BenQ ประจำประเทศไทย ได้เผยภาพรวมการตลาดของ BenQ ในช่วงที่ผ่านมา โดยสรุปได้ว่า อุตสาหกรรมโปรเจคเตอร์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอการจัดซื้อจัดจ้างของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แต่ทาง BenQ ยังสามารถประคองส่วนแบ่งทางการตลาดปี 2020 ของธุรกิจโปรเจคเตอร์ได้ ถือว่าเป็นอันดับที่ 4 เทียบกับคู่แข่งทางการค้าทั้งหมด 15 แบรนด์ และมีอัตราการเติบโตขึ้นถึง 6.11% เมื่อเทียบกับปี 2019
BenQ ได้ปรับกลยุทธ์การจำหน่ายโปรเจคเตอร์เพื่อใช้ในห้องประชุมมาสู่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หนึ่งในกลุ่มตลาดสำคัญก็คือ กลุ่มภาคการศึกษา ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ โดย BenQ เน้นจับตลาดกลุ่มภาคการศึกษาตั้งแต่ระดับ K-12 ไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งตัวเลขส่วนแบ่งทางตลาดในภาคการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 นั้น อยู่ที่ 27.78% ในขณะที่ส่วนแบ่งของภาคการตลาดการศึกษาในระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยม หรือ K-12 นั้น อยู่ที่ 25.89% เป็นอันดับ 2 รองจากคู่แข่ง (อ้างอิง Future Source Research)
ทั้งนี้ BenQ ได้นำเสนอแนวคิด Blended Learning Solution รูปแบบการเรียนการสอนที่ผสมผสานการเรียนแบบ Online และ On-site เพื่อลดความแออัดของจำนวนนักเรียนในแต่ละห้องเรียน โดยครูผู้สอนดำเนินการเรียนการสอนแบบเรียลไทม์ผ่านจอภาพ IFP ผลิตภัณฑ์ชูโรงจากฝั่ง BenQ ให้กับผู้เรียนได้ทั้งที่เรียนอยู่ในห้องเรียนและที่บ้านได้ ซึ่งจะทำให้เด็กนักเรียนได้เข้าถึงเนื้อหาการเรียนไปพร้อม ๆ กัน ปราศจากข้อจำกัดด้านสถานที่ อีกทั้งยังเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และระหว่างผู้เรียนร่วมห้องต่างสถานที่ไปด้วย
คุณสมบัติโดดเด่นของกระดานอัจฉริยะใน DuoBoard & Collaboration Series ที่ BenQ ได้นำเสนอเพื่อเสริมโซลูชันการเรียนแบบผสมผสานนั้น คือ
- หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 65 นิ้ว ในรุ่น CP6501K / RE6501, 75 นิ้ว ในรุ่น RE7501, 86 นิ้ว ในรุ่น CP8601K / RE8601 และ 98 นิ้ว ในรุ่น RE9801
- สามารถใช้งานแบบ Duo Users, Duo Windows, Duo OS และ Duo Board ใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกันได้ในหน้าจอเดียว
- รองรับการใช้งานร่วมกับระบบคลาวด์เพื่อให้ครูผู้สอนดึงข้อมูลสื่อการสอนจากคลาวด์ได้ทันที อีกทั้งแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Core System ที่ BenQ คิดค้นขึ้นมาเอง ทั้ง Cloud Service และ Local Software ที่สามารถทำงานร่วมกับ iOS, MacOS, WindowsOS, Android OS พร้อมรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ต่าง ๆ ในอนาคต
- รองรับการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์เสริมการใช้งานเพื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Zoom, Kahoot, Kevin Bradford เป็นต้น
- พ่วงคุณสมบัติหน้าจอเคลือบสารป้องกันแบคทีเรียเพื่อความถูกหลักอนามัย
พร้อมกันนี้ในปี 2021 ทาง BenQ ประเทศไทย ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ จอภาพอัจฉริยะ IFP รุ่น RE9802 ขนาดหน้าจอ 98 นิ้ว เปิดตัวในราคา 499,000 บาท และ รุ่น CP6501K ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว เปิดตัวในราคา 299,000 บาท เพื่อรองรับกลุ่มธุรกิจสถานศึกษาโดยมุ่งเน้นโรงเรียนนานาชาติเป็นหลัก และกลุ่มธุรกิจภาคเอกชน และรัฐบาล ตามลำดับ