[Guest Post] Linksys อัพเกรดเราเตอร์ในตระกูล E-Series Dual-Band WiFi 6 รุ่นที่ขายดีที่สุดด้วยมาตราฐานเทคโนโลยี EasyMesh

0

เทคโนโลยี EasyMesh™ จะช่วยในการขยายพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณ WiFi มากขึ้นได้โดยการเพิ่มโหนดมากขึ้นภายในบ้าน ซึ่ง Linksys ในแต่ละรุ่นไม่ว่าจะเป็น E5600, E7350, E8450 และ E9450 สามารถทำงานเชื่อมต่อกับรุ่นเดียวกันได้ เพื่อสร้างโครงข่ายการใช้งานแบบ Mesh 

ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่น WiFi สำหรับบ้านและธุรกิจ ที่ล่าสุดได้เปิดตัว เราเตอร์ Linksys E5600, E7350, E8450 และ E9450 บนเทคโนโลยี EasyMesh™ ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานของผู้บริโภคทั่วโลก

ซึ่ง Linksys ในตระกูล E-Series Dual-Band Routers ไม่ว่าจะเป็นรุ่น E5600 WiFi 5 พร้อมทั้งรุ่น E7350, E8450 และ E9450 WiFi 6 ได้การตอบรับที่ดีมากด้วยการอัพเกรดมาตรฐานเทคโนโลยี EasyMesh™ อีกระดับของเราเตอร์ที่มีการทำงานแบบ Mesh ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลมีความเร็วขึ้น กำลังการส่งสัญญาณแรงขึ้น เสริมประสิทธิภาพการเชื่อมต่อแบบไม่สะดุด ตอบโจทย์ความต้องการสำหรับผู้ที่เริ่มต้นการใช้งานและกำลังมองหาเราเตอร์ในระบบ Mesh ที่รองรับ WiFi 6 เทคโนโลยี WiFi ล่าสุดในอุตสาหกรรรมที่มีอยู่ตอนนี้

เทคโนโลยี EasyMesh เป็นมาตรฐานใหม่ที่ Linksys ได้นำไปใช้ในเราเตอร์ตระกูล E-Series Dual-Band WiFi 6 Routers โดยได้มีการพัฒนาอัพเกรดเฟิร์มแวร์อย่างต่อเนื่อง

การทำงานของ EasyMesh ทำให้การเชื่อมต่อราบรื่นครอบคลุมตามพื้นที่

ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี EasyMesh คือการเชื่อมต่อสัญญาณโครงข่าย WiFi ให้สามารถทำงานได้อย่างครอบคลุมโดยการใช้อุปกรณ์เราเตอร์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันมาเชื่อมต่อหลายจุดภายในบ้าน ซึ่งเทคโนโลยี EasyMesh เป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิคที่กำหนดโดยข้อกำหนดทางเทคนิคของ WiFi Alliance Multi-AP ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอยู่ทั่วโลก

ระบบการทำงานของ EasyMesh จะช่วยให้การติดตั้งเครือข่ายสัญญาณ WiFi ขนาดใหญ่สามารถติดตั้งในบ้านหรือสำนักงานได้ง่าย พร้อมการเชื่อมต่อสัญญาณกันอย่างไม่มีสะดุดจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งระบบนี้เป็นระบบที่แตกต่างจากการใช้งานตัวขยายสัญญาณ WiFi แบบเดิม ที่จะมีการสร้างชื่อ WiFi ของตัวเองขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้ต้องเลือกเชื่อมต่อระหว่างเราเตอร์หลักและตัวขยายสัญญาณเอง

สิ่งที่ระบบ Mesh WiFi มีความแตกต่างจากเราเตอร์ปกติทั่วไปคือ จุดกระจายสัญญาณ WiFi จะถูกวางไว้ในแต่ละจุดภายในบ้านหรือสำนักงาน ซึ่งจะทำให้สามารถปล่อยสัญญาณได้ครอบคลุมพื้นที่ ขจัดปัญหาสัญญาณ WiFi อ่อนหรือจุดอับสัญญาณ

เทคโนโลยี Mesh WiFi จะสร้างโครงข่ายสัญญาณเดียวด้วยชื่อ WiFi เดียวกัน เมื่อผู้ใช้งานใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ หรือเคลื่อนย้ายอุปกรณ์รับสัญญาณ เช่น สมาร์ทโฟน แล็บท้อป ไปยังจุดต่าง ๆ ภายในบ้าน สัญญาณก็จะถูกจับสัญญาณเชื่อมต่อไปยัง Mesh Router ที่อยู่ใกล้เคียงที่สุดโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจะช่วยลดปัญหาการที่ต้องมาตั้งค่าการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับสัญญาณ WiFi แต่ละจุดใหม่เองทุกครั้ง

Multi-AP

องค์ประกอบสำคัญในการสร้างโครงข่ายแบบ Multi-AP คือต้องประกอบไปด้วย การมีเราเตอร์ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมหลักหนึ่งตัว และอุปกรณ์ลูกข่ายอีกอย่างน้อยหนึ่งตัว ที่ช่วยจัดการขยายสัญญาณได้ โดยอุปกรณ์แต่ละตัวจะรองรับการใช้งานได้ทั้ง 2 รูปแบบ และสามารถเลือกรูปแบบการทำงานในขั้นตอนการติดตั้ง ในทางปฏิบัติแล้วมันคือรูปแบบของการส่งข้อมูลทุกอย่างผ่านเราเตอร์ตัวหลักหรือที่เรียกว่าเครือข่ายแบบต้นไม้ (Tree Topology)

อัพเกรดเฟิร์มแวร์

ปัจจุบันเราเตอร์รุ่น E Series ของ Linksys รองรับเทคโนโลยี EasyMesh แล้ว ผ่านการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ หรือสามารถดาวโหลดเฟิร์มแวร์และคู่มือการติดตั้งได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ Linksys.com

E5600 : https://www.linksys.com/th/support-product?pid=01t2T000004qjPjQAI
E7350 : https://www.linksys.com/th/support-product?pid=01t2T000004qYS5QAM
E8450 : https://www.linksys.com/th/support-product?pid=01t2T000004rLf5QAE
E9450 : https://www.linksys.com/th/support-product?pid=01t2T000004rSMRQA2

คู่มือการติดตั้งสำหรับเราเตอร์ Linksys EasyMesh รุ่น E8450/E7350/E5600 >>> https://youtu.be/M8jGASb2v0k

เกี่ยวกับ Linksys

Linksys ได้เริ่มก่อตั้งบุกเบิกในธุรกิจการเชื่อมต่อไร้สายตั้งแต่ปี 1988 โดยมีพันธกิจในการเชื่อมต่อโลกและสร้างเทคโนโลยีไร้สายที่น่าเชื่อถือด้วยนวัตกรรมใหม่ที่สุดในโลก ซึ่ง Linksys เป็นแบรนด์เราเตอร์รายแรกที่ได้จัดส่งอุปกรณ์ไปกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ทั้งนี้ Linksys เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากผลงานที่ได้รับรางวัลด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบโครงข่ายเชื่อมต่อบ้านอัจฉริยะหรือธุรกิจ ด้วย WiFi ที่ปลอดภัยและเสถียร ซึ่งในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Linksys มีจำหน่ายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในปี 2018 Linksys ได้รวมเข้ากับ Foxconn Interconnect Technology (FIT) เพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพการทำงานให้ขยายไปสู่ระดับโลกมากขึ้น และในปี 2021 ได้ผสานความร่วมมือในการทำงานสอดคล้องกับ Fortinet ในการก้าวสู่ความเป็นผู้นำโซลูชั่นด้านความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการโครงข่ายในบ้านในยุคของการทำงานจากที่บ้าน