เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา พรรค Partido Popular ผู้นำพรรคฝ่ายค้านของประเทศสเปน ได้นำเสนอร่างกฎหมายใหม่ ที่จะอนุญาตให้นำ Cryptocurrency มาใช้ชำระสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์รวมถึงการจัดตั้งสภาสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto asset council) เพื่อวิเคราะห์ถึงผลกระทบของการนำ Cryptocurrency และ Blockchain มาใช้งาน
ร่างกฎหมาย Digital Transformation Law ที่ถูกนำเสนอขึ้นมานี้ จะอนุญาตให้ผู้กู้สินเชื่อเพื่อบ้านและที่ดินสามารถชำระค่างวดผ่าน Cryptocurrency ได้ โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็จะสามารถนำ Cryptocurrency ที่ได้รับไปลงทุนในกองสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ (Mortgage Pool) และธนาคารก็จะสามารถใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการจัดการกับสินเชื่อและประกันอสังหาริมทรัพย์ และใช้ Cryptocurrency ในการชดใช้ค่าเสียหายต่อสินทรัพย์ได้เช่นกัน
สเปนได้อนุญาตให้มีการนำ Cryptocurrency มาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน (Means of exchange) หลังคำตัดสินของศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปในปี 2014 ซึ่งหากร่างกฎหมายนี้ผ่านขึ้นเป็นกฎหมายบังคับใช้งาน Cristina Carrascosa – CEO แห่ง ATH21 บริษัทกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านสินทรัพย์ดิจิทัลได้ให้ความเห็นว่า จะเป็นเสมือนการยอมรับกลายๆว่า Cryptocurrency เป็นหนึ่งในสื่อกลางการชำระเงิน (Means of payment) ด้วยคุณสมบัติในการชำระหนี้ได้ ซึ่งในปัจจุบัน ธนาคารสเปนยังไม่มีการรับชำระเงินด้วย Cryptocurrency แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้ยังคงมีข้อความที่ย้ำถึงสถานะ Means of exchange ของสินทรัพย์ดิจิทัลว่าเป็นการแลกเปลี่ยนตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และเป็นวิธีทดแทนการชำระเงินตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้เท่านั้น
ในร่างกฎหมายยังกล่าวอีกว่าการชำระด้วย Cryptocurrency นั้นจะมีการเก็บภาษีเช่นเดียวกับข้อกำหนดด้านภาษีปกติของการชำระผ่านสกุลเงินทั่วไป
นอกจากนี้ ในร่างกฎหมายยังมีการกล่าวถึงการจัดตั้งสภาสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ (CDC) ที่จะทำการศึกษาถึงผลกระทบของการนำสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้งานในส่วนราชการ รวมไปถึงพิจารณาแนวทางในการจัดการกับการทุจริตและหลีกเลี่ยงภาษีด้วย Crytocurrency ด้วย