สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแรงงานที่ใช้ระบบเข้างานแบบเป็นกะ (Shift-Based Industry) ซึ่งทำให้ความต้องการแรงงานมีความผันผวน องค์กรธุรกิจต้องรับมือกับข้อจำกัดมากมายในการดำเนินงานช่วงโควิด-19 เวิร์คเมท (Workmate) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหาและการจัดการพนักงานกลุ่มปฏิบัติการ ซึ่งใช้เทคโนโลยีโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจและแรงงานในประเทศไทยในสถานการณ์ท้าทาย ณ ปัจจุบัน
นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เวิร์คเมทได้ช่วยในการหางานที่เหมาะสมให้กับแรงงานไทยไปแล้วกว่า 12,000 คน คิดเป็นจำนวนวันทำงานเกือบ 450,000 วัน ซึ่งกลุ่มแรงงานนอกระบบหรือแรงงานอิสระ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงได้มีโอกาสใช้บริการเวิร์คเมทเพื่อช่วยในการหางานที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ปัจจุบัน เวิร์คเมทให้บริการในการหางานสำหรับพนักงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ก่อนเกิดการแพร่ระบาด ธุรกิจหลายแห่งประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นทุนเดิม อีกทั้งการที่พนักงานอยู่ไกลจากสถานที่ทำงานหรืออาศัยในจังหวัดใกล้เคียงก็ยังเป็นความท้าทายที่พบได้บ่อย บริษัทหลายแห่งจึงมีการจัดรถโดยสารประจำวัน รับส่งแรงงานตามจุดต่างๆ เพื่อไปส่งยังที่ทำงาน แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดทางด้านการขนส่ง ซึ่งความท้าทายที่มากขึ้นในการจัดหาแรงงานที่พร้อมทำงาน โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้กำลังคนจำนวนมากในการดำเนินงาน
จากผลสำรวจของ Manpower Group พบว่า ภาคการขนส่งและโลจิสติกส์มีอัตราการเติบโตสูงสุดในปี 2020 อยู่ที่ 4.83% เนื่องมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด ทางด้านองค์การแรงงานระหว่างประเทศยังสังเกตเห็นความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรมการกระจายสินค้าในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย ความต้องการแรงงานที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์นี้สามารถหาแรงงานมาทดแทนได้ด้วยการจ้างงานผู้ที่ตกงานจากอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด เช่น อุตสาหกรรรมอาหารและเครื่องดื่ม และการบริการ
แพลตฟอร์มจ้างงานของเวิร์คเมทใช้เทคโนโลยีแมตชิ่งงานด้วยการเชื่อมต่อธุรกิจกับกลุ่มแรงงานที่พร้อมทำงาน และผ่านการคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถแก้ปัญหาความต้องการแรงงานได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่สามารถลดระยะเวลาและขั้นตอนในการจ้างงานได้ดีกว่าจากการจ้างงานในรูปแบบเดิมได้
มาร์ติน โซเรนเซน ซีอีโอ เวิร์คเมท ประเทศไทย กล่าวว่า “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยจัดการดาต้าต่างๆ ของแรงงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่จำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งกระบวนการและดาต้าต่างๆ ค่อนข้างไม่สมบูรณ์และค่อนข้างกระจัดกระจาย โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิดทำให้หลายบริษัทที่เป็นลูกค้าของเวิร์คเมทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้แพลตฟอร์มของเราเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้มากขึ้น”
แพลตฟอร์มเวิร์คเมท ช่วยให้นายจ้างจ้างแรงงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง ด้วยการเข้าถึงเครือข่ายกลุ่มแรงงานกว่า 100,000คนซึ่งผ่านการคัดกรองแล้วด้วยดาต้าจากการเรตติ้งจากผู้ว่าจ้างงานก่อนหน้า ประวัติการเข้างาน ที่อยู่อาศัยที่ใกล้สถานที่ทำงาน คะแนนทักษะที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งซึ่งผู้สมัครและงานนั้นๆจะถูกแมตช์ด้วยข้อมูลเหล่านี้โดยการใช้เทคโนโลยีAI ซึ่งจากการใช้งานพบว่า 90% ของงานที่ประกาศบนแพลตฟอร์มเวิร์คเมท จะได้รับการจ้างงานครบทุกตำแหน่งภายใน 4 ชั่วโมงเท่านั้น
ฟู้ดแพนด้า (foodpanda) ได้รับประโยชน์จากการใช้โซลูชันการจ้างงานของเวิร์คเมท หลังจากเปิดตัว
แพนด้ามาร์ท (Pandamart) เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการซื้อของประเภทอุปโภคบริโภคต่างๆที่เพิ่มขึ้นผ่านทางออนไลน์อันเนื่องมาจากการล็อกดาวน์ ฟู้ดแพนด้าได้ร่วมมือกับเวิร์คเมทในการจ้างงานพนักงานประจำแพนด้ามาร์ทกว่า 32 สาขาทั่วประเทศไทย บาฟวานี แชงเกอร์ มิชร่า ผู้อำนวยการฝ่ายโลจิสติกส์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ฟู้ดแพนด้า กล่าวว่า “เวิร์คเมทมีความสำคัญต่อความสำเร็จของ แพนด้ามาร์ท การที่มีดาต้าที่ถูกต้องทำให้เราได้พนักงานอย่างรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย จึงทำให้เราสามารถโฟกัสไปที่การขยายธุรกิจได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว”
บริษัทจัดหางาน อาร์แอลซี ประเทศไทย (RLC Recruitment Thailand) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหางานและให้คำปรึกษาแบบครบวงจร ร่วมมือกับเวิร์คเมทในปี 2020 โดยมุ่งหวังในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการจ้างงาน ทำให้ลูกค้าสามารถจ้างพนักงานที่ทำงานแบบกะได้มากขึ้น ริชาร์ด แจ็คสัน กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทจัดหางาน อาร์แอลซี ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “เราพบว่าลูกค้าจำนวนมากมองหาโซลูชันในการจ้างงานอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต และโลจิสติกส์ที่ต้องการพนักงานที่มีความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด เราพบว่าเทคโนโลยีของเวิร์คเมทสามารถตอบสนองต่อความต้องการนี้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมอบเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อความสำเร็จของลูกค้าของเราอีกด้วย”
เนื่องด้วยวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบรุนแรงต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย การร่วมมือกันของทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ฝ่าวิกฤตไปได้ เวิร์คเมทจึงขอเป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการช่วยเหลือกลุ่มภาคธุรกิจและประชาชน โดยการขยายเทคโนโลยีการจ้างและหางานนี้ไปสู่ชุมชนในวงกว้าง เปิดให้กลุ่มธุรกิจสามารถใช้แพลตฟอร์มของเวิร์คเมทในการลงประกาศรับสมัครงาน พร้อมใช้เทคโนโลยีแมตชิ่งอัจริยะของเวิร์คเมทได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ความช่วยเหลือนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมริเริ่มที่เวิร์คเมทมุ่งหวังเพื่อจะช่วยให้คนงานในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงงานที่เหมาะสม และให้ธุรกิจสามารถจ้างงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาอันท้าทายนี้
เกี่ยวกับเวิร์คเมท
เวิร์คเมท ผู้นำด้านบริการแพลตฟอร์มจัดหาพนักงานแบบครบวงจร มีพันธกิจที่จะยกระดับตลาดแรงงานนอกระบบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความแตกต่างให้กับกลุ่มแรงงานแบบเข้ากะด้วยการสร้างเครื่องมืออัจริยะที่ทำให้การจัดการแรงงานเป็นเรื่องง่าย ตั้งแต่กระบวนการจัดหาแรงงาน ไปจนถึงการปฏิบัติงาน ช่วยองค์กรธุรกิจบรรลุประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการทำงาน อีกทั้งยังช่วยให้แรงงานสามารถเข้าถึงโอกาสในการทำงานได้มากขึ้นและได้รับความยุติธรรมมากขึ้น ปัจจุบันเวิร์คเมทระดมทุนได้มากกว่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีการดำเนินงานในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซีย ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรกว่า 200 ราย ทั้งในภาคโลจิสติกส์ อาหารและเครื่องดื่ม และการบริการ อีกทั้งยังสามารถสร้างชั่วโมงการทำงานให้แก่พนักงานมากถึง 1.5 ล้านชั่วโมงต่อเดือน