TL;DR (Too Long, Didn’t Read)
- DELL U2422H รุ่น Ultrasharp จอ IPS ขนาด 23.8 นิ้วกำลังดี วัสดุทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลหลังการบริโภคถึง 85%
- ฐานขาตั้งแข็งแรง หยิบจับสะดวก ปรับระดับสูงต่ำ บิดหมุนหน้าจอซ้ายขวาก้มเงยทำได้หมด
- รูปลักษณ์สวยงาม ปุ่มน้อย มีฮับ (Hub) พอร์ตต่าง ๆ มากมายอยู่ใต้เครื่อง
- จอสีตรง sRGB 100% ใช้งานได้สบายตา ใช้ทำงานนาน ๆ หรือตัดต่อกราฟิกได้สบาย
- ราคาเข้าถึงได้ หนึ่งหมื่นยังมีทอน อยู่ที่ 9,400 บาท ณ พ.ย.64 นี้เท่านั้น
อารัมภบท
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว แต่การทำงาน Work From Home หรือว่า Hybrid Work นั้นก็คงจะเป็นทางที่เลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะโลกการทำงานแห่งยุคอนาคตได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นที่เรียบร้อย และถ้าใครที่ต้องการทำงานอยู่ที่บ้าน แล้วงานที่ทำมีปริมาณข้อมูลมหาศาล ต้องอ่านรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย หรือต้องทำคอนเทนต์วีดีตัดต่อ หน้าจอโน้ตบุ๊กก็อาจจะใช้ทำสิ่งเหล่านั้นได้ไม่ค่อยสบายตาเท่าไหร่นัก ซึ่งการใช้งานหน้าจอแยกออกมานั้นถือว่าเป็นอีกแนวทางที่ช่วยให้สามารถทำงานได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เห็นภาพรวมมากขึ้น และที่สำคัญคือช่วยถนอมสายตาได้อีกด้วย
สำหรับครั้งนี้ก็ถึงคราวของหน้าจอแบบด้านที่แสดงผลสีตรง ไม่ใหญ่มากนัก อย่าง DELL U2422H รุ่น Ultrasharp ขนาด 23.8 นิ้ว ที่เรียกว่าราคายังรับได้ไม่ถึงหมื่น แถมชื่อแบรนด์ก็เป็นที่รู้กันว่าคุณภาพดี บอกได้เลยว่าการใช้งานจริงนั้นสบายตามาก ๆ รายละเอียดอื่นเป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้เลย
Fact Sheet
หน้าจอ DELL U2422H นี้จะอยู่ในซีรีย์ Ultrasharp ที่เน้นเรื่องการแสดงผลสีจะตรงและคมชัดด้วยเทคโนโลยี IPS แถมยังถนอมสายตาอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดอื่น ๆ จะเป็นไปตามตารางด้านล่างนี้เลยครับ
ขนาด (สูง, กว้าง, หนา) | 364.0 มม. x 537.6 มม. x 179.6 มม |
น้ำหนัก | 6 กิโลกรัม |
หน้าจอแสดงผล | ขนาด : 23.8 นิ้ว อัตราส่วนภาพ : 16:9 ประเภทหน้าจอ : IPS ความละเอียดสูงสุด : 1920 x 1080 พิกเซล อัตราการรีเฟรช : 60 Hz ช่วงสี : sRGB 100% จำนวนสี : 16.7 ล้านสี ความสว่าง : 250 nits เวลาตอบสนอง : 5 ms |
ขาตั้ง | การปรับมุมหน้าจอ: 178°H / 178°V |
เสียง | ไม่มี |
พอร์ตและอินเตอร์เฟซ | USB Type-C จำนวน 2 ช่อง USB Type-A 3.2 จำนวน 3 ช่อง HDMI จำนวน 1 ช่อง Display Port จำนวน 2 ช่อง (1 x In, 1 x Out) ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มม. จำนวน 1 ช่อง |
เรียกได้ว่าเป็นหน้าจอที่เน้นช่วงสีตรงและครอบคลุมสีได้มาก ซึ่งเหมาะกับการใช้ทำงานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเอกสารหรือว่าจะทำด้านกราฟิกใด ๆ ใช้งานได้อย่างแน่นอน แถมถ้าใครมีอุปกรณ์ต้องมาต่อพ่วงเยอะ ๆ จอนี้มีพอร์ตรองรับเยอะมาก แล้วของจริงเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย
แกะกล่องลองใช้
สำหรับหน้าจอ DELL U2422H นี้ ทางทีมได้สั่งซื้อมาใช้งานผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งการจัดส่งจะมาเป็นกล่องแบบนี้เลย โดยกล่องนี้ผลิตโดยใช้กระดาษแข็งรีไซเคิลถึง 75% ซึ่งกล่องอยู่ในสภาพที่ดีทุกอย่าง และการ Unboxing เปิดกล่องออกมาก็ทำได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ที่น่าชื่นชมคือภายในจะไม่มีการใช้โฟมกันกระแทกแต่อย่างใดด้วย
อุปกรณ์ภายในกล่องนั้นจะมีตัวหน้าจอ (อยู่ในซอง) ฐานพร้อมขาตั้ง และสายต่าง ๆ ได้แก่ สาย Display Port ไป Display Port สาย USB-A ไป USB-C และปลั๊กไฟ ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีสาย HDMI แถมมาด้วยนะครับ โดยการประกอบหน้าจอกับขาตั้งนั้นทำได้ง่ายมาก ๆ และถ้าหากต้องการที่จะเอาไปติดไว้ข้างกำแพงก็สามารถทำได้เช่นกัน
สำหรับพอร์ตบนเครื่องด้านล่างหน้าจอนั้นเป็นเหมือนฮับ (Hub) อย่างแท้จริง เรียงจากซ้ายไปขวาเลยจะมีช่อง Kensington Lock ช่องเสียบปลั๊กไฟ ช่อง HDMI ช่อง Display Port 2 ช่องที่ใช้ต่อออกจอได้อีกหนึ่งจอ พอร์ต USB-C และ USB-A และช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มม. แถมข้าง ๆ ด้านขวายังมีพอร์ต USB-A และ USB-C อีกอย่างละช่อง เรียกได้ว่ามีพอร์ตให้ใช้ต่อพ่วงได้เยอะมากจริง ๆ
วัสดุของจอ DELL U2422H นี้ดูแล้วจะดูเนียนเหมือนกับอลูมิเนียม แต่แท้จริงแล้วทำมาจากพลาสติกรีไซเคิลหลังการบริโภค (Post-consumer Recyclable Plastic : PCR) ถึง 85% เลยทีเดียว ซึ่งส่วนด้านหลังของจอนั้นจะด้านหลังมีแค่ปุ่มเปิดปิดจอและปุ่มจอยสติ๊ก (Joystick) ที่ใช้กดเลือกตั้งค่าในเมนูต่าง ๆ ของจอเท่านั้น ซึ่งใช้งานได้สะดวกดี ส่วนของขาตั้งและฐานของ DELL U2422H นั้นสามารถประกอบเข้ากับหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตรงฐานและขาตั้งก็ดูแข็งแรง หยิบจับยกไปมาได้อย่างสบายใจ แถมถ้าหากว่าจะถอดออกจากขาตั้งก็ทำได้ง่าย เพียงแค่กดปุ่มแล้วก็ดึงออกได้ทันที
สำหรับขาตั้งนั้นยังสามารถปรับระดับสูงต่ำ หมุนซ้ายขวา บิดทวนเข็มตามเข็มนาฬิกาได้แบบครบครัน โดยสามารถปรับระดับได้สูงสุดถึงประมาณ 50 ซม. (นับจากขอบบนของจอถึงฐาน) หมุนซ้ายขวาได้ฝั่งละ 45 องศา และบิดหน้าจอซ้ายขวาได้ 90 องศาทั้งทวนเข็มและตามเข็มนาฬิกา เรียกได้ว่าสนับสนุนการใช้งานได้หลากหลายตามที่ต้องการแน่นอน
นอกจากนี้ ขาตั้งยังสามารถบิดมุมเงยมุมก้มได้อีกด้วย โดยกดหน้าจอลงได้ 5 องศา และเงยหน้าจอขึ้นได้ 21 องศา ซึ่งถ้าใครอยากยืนทำงานเป็นครั้งคราว จอนี้ถือว่ารองรับได้ดีทีเดียว
เมื่อเปิดใช้งานหน้าจอ จะรู้สึกได้ทันทึเลยว่าใช้งานได้สบายตามาก ๆ สีสันที่แสดงบนจอ IPS แบบด้านนี้ทำให้ทำงานได้อย่างไหลลื่น เพราะไม่มีแสงสะท้อนบนหน้าจอที่ทำให้ปวดสายตาตอนใช้งานนาน ๆ นั่นเอง และจอ DELL U2422H นี้ก็ยังสามารถปรับการตั้งค่า Brightness Contrast และอื่น ๆ ได้หลากหลาย ซึ่งจะมี Preset Modes มาให้เลือกใช้งานได้ทันที 3 โหมด ได้แก่ Standard, Movie และ Game ทั้งนี้ยังสามารถปรับค่าสี อุณหภูมิสี หรือว่าเลือกที่จะแสดงสี RGB ในอัตราส่วนที่แตกต่างกันได้อีกด้วย โดยถ้าหากต้องการล้างการตั้งค่าทั้งหมดก็กด Reset Display ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อใช้งานจริง ๆ แล้ว ความรู้สึกคือสบายตามาก ๆ ด้วยจอแนวกว้างเลยทำให้เปิดเว็บวางซ้ายขวาเทียบกันก็ยังใช้งานได้สบาย และถ้าใครเป็นสายเขียนโปรแกรม บอกได้เลยว่าถูกใจแน่นอน ขนาดกำลังพอดีไม่กินที่โต๊ะมากเกินไป และถ้าบิด 90 องศาใช้เขียนโปรแกรมด้วยจอแนวตั้งก็ยังอยู่ในระยะสายตากำลังดี ส่วนถ้าใครใช้ตัดต่อวีดีโอก็เรียกว่าตรงงาน เพราะหน้าจอ DELL U2422H นี้จะแสดงผลด้วยสีที่ตรง sRGB 100% สบายใจหายห่วง
ที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของการประหยัดพลังงาน โดยจะมี PowerNapi ฟีเจอร์ที่จะทำให้หน้าจอเข้าสู่โหมด Sleep เมื่อไม่ได้มีการใช้งานหน้าจอเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่สิ่งที่อยากจะโน้ตไว้สักเล็กน้อยนั่นคือจอนี้ไม่มีลำโพงแบบ Built in มาให้ด้วยนะครับจะต้องหาลำโพงแยกมาเชื่อมต่ออีกที และเนื่องจากพอร์ตต่าง ๆ อยู่ด้านล่างตัวหน้าจอทั้งหมดที่ซ่อนไว้เพื่อความสวยงาม จึงทำให้เวลาเสียบสายอาจจะต้องบิดหน้าจอเพื่อเสียบสายเสมอนั่นเอง
บทสรุป
หน้าจอ DELL U2422H นี้เรียกว่าเป็นหน้าจอแยก Ultrasharp สีตรง sRGB 100% ที่ขนาด 23.8 นิ้วกำลังดี ไม่ใหญ่เกินโต๊ะจนเกินไป ที่ขาตั้งและฐานสามารถปรับระดับสูงต่ำ หมุนซ้ายขวา บิดเอียงหน้าหลังได้หมด ทำให้สามารถใช้ทำงานตัดต่อวีดีโอหรือดูหนังก็ใช้งานได้สบายตา แถมมีโหมดตั้งค่า Preset ไว้ให้แล้ว 3 โหมดที่สามารถเลือกใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และช่วยประหยัดพลังงานเมื่อไม่ได้มีการใช้งานนาน ๆ อีกด้วย
หากสำหรับใครที่สนใจอยากจะซื้อหน้าจอแยกใช้ทำงานในช่วงนี้แล้ว แนะนำเลย DELL U2422H ที่บอกได้เลยว่าใช้นั่งทำงานทั้งวันก็ไม่ปวดตา สนนราคาออนไลน์อยู่ที่ 9,400 บาทเท่านั้น ณ พ.ย.64 นี้ หนึ่งหมื่นยังมีทอน สบายกระเป๋าแน่นอนรับการทำงานแบบ Hybrid Work ได้สบาย