เตรียมตัว ! AI และ Automation ทดแทนงานมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างเงียบ ๆ

0
เตรียมตัว ! AI และ Automation ทดแทนงานมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างเงียบ ๆ
https://venturebeat.com/wp-content/uploads/2022/01/GettyImages-841824594.jpg?fit=750%2C459&strip=all

เรียกได้ว่ากระแสของเรื่อง AI ที่จะมาทดแทนแรงงานของมนุษย์ได้อย่างมหาศาลนั้นยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ดังที่ได้เห็นในหลาย ๆ งานนั้นจะเห็นได้ว่า AI สามารถทำงานได้ดีเทียบเท่าหรือเหนือกว่ามนุษย์ไปแล้วหากแต่บ้างก็มีพูดว่า AI เหมาะกับเฉพาะงานที่ทำซ้ำ ๆ เท่านั้น บ้างก็บอกว่ายังขาดความสามารถเหมือนมนุษยอีกมาก

แต่ทว่าในช่วงปี 1990 จนถึงปี 2007 งานระบบอัตโนมัติ (Automation) ด้วยระบบ AI นั้นได้ทดแทนงานภายในโรงงานในสหรัฐไปได้ราว 400,000 ตำแหน่งแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่ายังมีอีกกว่า 2 ล้านตำแหน่งที่อยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอีกด้วย จนกระทั่งมาถึงในยุคที่ COVID-19 มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นก็ยิ่งส่งผลให้การใช้งานระบบอัตโนมัติด้วย AI ยิ่งเฟื่องฟู ที่ทุกวันนี้อาจจะกำลังกลายเป็นเรื่องทั่วไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเราอาจจะเริ่มเห็นงานบางงานที่ AI กำลังค่อย ๆ คืบคลานทดแทนแรงงานมนุษย์ไปเรื่อย ๆ กันอีกแล้ว ดังต่อไปนี้

นักเขียนหุ่นยนต์ (Robo-Writers)

เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ระบบ AI เริ่มสามารถสร้างข้อความหรือบทความขึ้นมาได้แทบจะเหมือนกับมนุษย์เขียนขึ้นมาจนแทบจะแยกแยะไม่ออกแล้ว ตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ Rytr แอปผู้ช่วยเขียนระบบ AI ที่มีผู้ใช้งานกว่า 6 แสนคนแล้วตอนนี้ ซึ่งแปลว่าคนเกือบครึ่งล้านที่ใช้งานนี้เริ่มสร้างบทความบางส่วนหรือทั้งหมดด้วย Rytr แล้วนั่นเอง ดังนั้น ไม่แน่ว่าอนาคตเหล่าบรรดานักเขียนทั้งหลายอาจจะถูกแทนที่ด้วยระบบ AI ไปได้อย่างเงียบ ๆ เลย

หุ่นยนต์ซัพพอร์ต (Robo-Support)

นอกจากงานเขียนแล้ว ระบบ AI ยังสามารถทำเป็นระบบอัตโนมัติในการให้บริการลูกค้า (Customer Service) งานบัญชี หรือว่างานสายอาชีพอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่นบริษัท Thankful, Yext และ Forethought ที่มีการใช้ระบบ AI เพื่อทำระบบบริการลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ หรืออย่างที่เห็นกันทั่วไปแล้วตอนนี้คือแชทบอทที่ช่วยตอบคำถามลูกค้าที่ถามเข้ามาซ้ำ ๆ ได้ แถมยังไม่มีรู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย เชื่อได้เลยว่าสิ่งนี้จะยังวิวัฒนาการต่อไปจนวันหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อแรงงานในวงกว้างในอนาคตอย่างแน่นอน

หุ่นยนต์แปลภาษา (Robo-Translators)

เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเราได้เห็นระบบแปลภาษา AI มากมายที่มีให้ใช้งานได้แล้วตอนนี้ อย่างเช่น Google Translate หรือ Microsoft Translator หากแต่การกำเนิดขึ้นของ Large Language Model โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทำให้การแปลภาษาด้วยระบบ AI นั้นทำได้ดีกว่ามนุษย์ตามที่เห็นในงานตีพิมพ์เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งนี้เองจะส่งผลให้ความต้องการใช้ล่ามแปลภาษาที่เป็นมนุษย์น้อยลงไป รวมทั้งจะทำให้ค่าจ้างของอาชีพเหล่านั้นลดลงไปด้วยเช่นกัน และด้วยความที่ระบบ AI ยังคงพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงไม่แน่ว่างานแปลภาษาในระดับผู้เชี่ยวชาญหรือเฉพาะทางก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกันในสักวันหนึ่ง

หุ่นยนต์เขียนโปรแกรม (Robo-Coders)

สิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้เอง ที่หลาย ๆ เจ้าอย่างเช่น GitHub Copilot หรือ Codex ที่สามารถใช้ระบบ AI มาช่วยเขียนโปรแกรมได้อัตโนมัติในหลาย ๆ ภาษา ซึ่งสิ่งนี้อาจมองได้ว่าเป็นช่วงเริ่มต้นที่ AI อาจกำลังมีบทบาทมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ AI ในตอนนี้มีความสามารถในการเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ดของโปรแกรมเมอร์ สไตล์การเขียน แล้วสามารถสร้างโค้ดขึ้นมาให้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากที่ AI จะสามารถเขียนโปรแกรมได้ดีกว่ามนุษย์โปรแกรมเมอร์ทั่ว ๆ ไปเขียนได้อย่างแน่นอน

GitHub Copilot

แม้ว่า AI กำลังจะคืบคลานทดแทนงานของมนุษย์ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ได้ทำให้เกิดเป็นงานใหม่ ๆ อาชีพใหม่ ๆ ขึ้นมาทดแทนด้วยเช่นกัน ดังนั้น พวกเราจึงต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม พัฒนาทักษะใหม่ ๆ ขึ้นมา และปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เรายังคงมีงานทำในวันที่ AI พร้อมทดแทนงานที่เรากำลังทำอยู่ในวันนี้ได้สำเร็จ

ที่มา: https://venturebeat.com/2022/01/08/ai-is-quietly-eating-up-the-worlds-workforce-with-job-automation/