iPhone มีฟีเจอร์เด่นตัวหนึ่งคือ Battery Health ที่บอกว่า iPhone ของคุณสามารถใช้งานแบตเตอรีได้กี่เปอร์เซ็นต์ พร้อมบอกมาตรวัดว่า แบตเสื่อมไปมากน้อยแค่ไหนตามอายุการใช้งาน คำถามคือ ตัวเลขสถานะแบตเตอรีนี้แม่นยำและเชื่อได้จริงหรือ?
ถ้าไปที่เมนู Settings > Battery > Battery Health ก็จะเจอกับตัวเลขที่เริ่มต้นที่ 100 แล้วจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุการใช้งาน จนถึงระดับที่ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรีแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วตัวเลขก็น่าจะค่อย ๆ ลดลงเป็นปกติ อีกทั้งทาง Apple ก็เคลมว่า แบตเตอรีจะมีความจุราว 80% หลังจากผ่านการชาร์จไป 500 ครั้ง แต่จากการรีวิวของผู้ใช้ท่านหนึ่งกลับพบว่ามันไม่เป็นเช่นนั้น
Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนประจำเว็บไซต์ ZDNet ระบุว่า ตนได้ซื้อ iPhone 13 Pro Max ตั้งแต่วันเปิดตัว ซึ่งจนถึงวันที่เขาเขียนรีวิวก็นับว่าใช้งานเครื่องมาแล้ว 104 วัน
จากข้อมูลภายในเครื่องในส่วน Battery Cycle Count ระบุว่า ผ่านรอบการชาร์จมาแล้วถึง 92 ครั้ง ซึ่งเท่ากับว่า iPhone ของเขาก็ผ่านการชาร์จไปแล้วราว 20% ในรอบชาร์จ 500 ครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าความจุแบตเตอรีที่ควรจะลดลงกลับยังคงอยู่ที่ 100% เหมือนเดิม ซึ่งขัดแย้งกับกฎฟิสิกส์อย่างไม่น่าเป็นไปได้

หากไปดูในส่วนวิเคราะห์จริง ๆ จะพบว่าความจุชาร์จสูงสุดอยู่ที่ 4,523 mAh (จากการชาร์จครั้งแรก) และความจุชาร์จต่ำสุดอยู่ที่ 4,255 mAh (จากการชาร์จครั้งล่าสุด) ซึ่งจะเห็นได้ว่า ความจุของแบตเตอรีเสื่อมลง แต่เหตุใด iOS ถึงไม่รายงานตามนั้น?
ตัวเลขที่แสดงบน iPhone (ไม่ใช่แค่เฉพาะบน iPhone เท่านั้น แต่รวมไปถึงแบตเตอรีอื่น ๆ ด้วย) เป็นเพียงตัวเลขความจุแบตเตอรีที่เป็นไปตามทฤษฎี บางเครื่องก็มีปริมาณความจุแบตมากกว่า ซึ่งก็จะมากกว่าที่กำหนดไว้ตามทฤษฎี ยิ่งมีความจุเกินจากที่กำหนดมากเท่าไร ก็จะใช้เวลานานกว่าความจุแบตเตอรีจะลดจาก 100 ลงมาที่ 99 เปอร์เซ็นต์ อันนี้ก็คงอยู่ที่ดวงล้วน ๆ