COVID-19 ทำพิษ! ยอดขายถุงยางดิ่งฮวบ 40%

0

หลาย ๆ คนอาจคิดว่า ในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 สองปีที่ผ่านมา พอคนอยู่บ้านมากขึ้นเนื่องจากต้องล็อกดาวน์ คนก็คงจะทำกิจกรรมร่วมกัน รวมไปถึงกิจกรรมใต้ผ้าห่มมากขึ้นด้วย ไม่น่าจะส่งผลอะไรกับการใช้ตัวช่วยคุมกำเนิดอย่างถุงยางอนามัย แต่จากรายงานข่าวของ Nikkei ผลกลับไม่เป็นเช่นนั้น

วิกฤต COVID-19 ได้ส่งผลกระทบกับหลาย ๆ ธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่บริษัทผู้ผลิตถุงยาง ซึ่ง Karex ผู้ผลิตถุงยางรายใหญ่ที่สุดของโลกจากประเทศมาเลเซียได้เปิดเผยว่า ยอดขายดิ่งฮวบลงถึง 40% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

Karex เป็นบริษัทผู้ผลิตถุงยางอนามัยราว 5.5 พันล้านชิ้นต่อปี และเป็นผู้ผลิตให้กับแบรนด์ต่าง ๆ อย่าง Durex และ ONE Condoms รวมถึงมีแบรนด์ถุงยางของบริษัทเองด้วย

Bloomberg รายงานเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ไว้ว่า Karex เคยสันนิษฐานก่อนหน้านี้ไว้ว่า ช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์ COVID-19 ความต้องการถุงยางอนามัยน่าจะเพิ่มมากขึ้น เพราะคนต้องการคุมกำเนิดเนื่องจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ Goh Miah Kiat CEO ของบริษัท Karex ก็เคยคาดการณ์ไว้ว่า อาจเกิดการขาดแคลนถุงยางเนื่องจากโรงงานต่าง ๆ ปิดตัว

Goh Miah Kiat, CEO of Karex (Image credit: Nikkei Asia)

แต่กลับกลายเป็นว่า ความต้องการถุงยางลดฮวบลง ไม่ใช่แค่กับแบรนด์ Karex เท่านั้น แต่รวมไปถึงแบรนด์ Durex และ Trojan ด้วย เพราะการล็อกดาวน์กระทบกับการใช้ชีวิตนั่นเอง สาเหตุหลักเป็นเพราะโรงแรมต่าง ๆ ที่มอบความเป็นส่วนตัวนั้นปิดให้บริการ รวมไปถึงการค้าบริการที่กระทบหนักเนื่องด้วยข้อจำกัดของการเว้นระยะห่างทางสังคม

บริการให้คำปรึกษาทางเพศจากภาครัฐก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ดังที่ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติประจำสหราชอาณาจักรสั่งปิดทำการคลินิกที่ไม่ฉุกเฉิน ทำให้การแจกจ่ายถุงยางก็ลดลงไปด้วย

อย่างไรก็ตาม Goh เผยกับ Nikkei ว่า  ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายถุงยางอนามัยก็กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยเพราะมีการลดหย่อนมาตรการต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทก็วางแผนหันไปผลิตถุงมือทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มการเติบโตพุ่งสูงอย่างมากแทน ซึ่งใช้วัสดุและเทคโนโลยีเดียวกับการผลิตถุงยางและถุงมือ