ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ Forrester Research เผยให้เห็นว่า ภายในปี 2040 จะมีตำแหน่งงานในโซนภูมิภาคยุโรปกว่า 12 ล้านตำแหน่งจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติหรือ Automation ต่าง ๆ
ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จึงทำให้เกิดการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ ในธุรกิจเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งในรายงานใหม่จากบริษัทวิเคราะห์เผยว่าในโซนยุโรปนั้นคาดว่าจะมีการใช้งานระบบ Automation เพื่อจัดการกับปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ในเรื่องประชากร โดยภายในปี 2050 นั้น 5 ประเทศผู้นำในยุโรปอันได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สเปน และสหราชอาณาจักรนั้นคาดว่าจะมีประชากรวัยทำงานลดน้อยลงไปถึง 30 ล้านคน
รายงานดังกล่าวยังเผยด้วยว่า การลงทุนในเรื่องระบบ Automation จะเป็น “กุญแจสำคัญ” ที่รัฐบาลยุโรปมองว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาคนี้ไว้ได้
นอกจากนี้ Forrester ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าค่ารักษาพยาบาลและเงินบำนาญจะยังคงต้องจ่ายต่อไป และต้องจ่ายในอัตราที่สูงขึ้นด้วย ส่วนด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการอื่น ๆ จะยังคงต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ภายใต้สถานการณ์ที่จัดเก็บภาษีได้น้อยลงไป อันเนื่องมาจากแรงงานที่หายไปจากการใช้ระบบ Automation มาทดแทนนั่นเอง
ทั้งนี้ นักวิจัยยังกล่าวว่า ภายในปี 2035 ประชากร 1 ใน 4 ของโลกจะมีอายุมากกว่า 65 ปี ซึ่งสูงขึ้นอย่างมากหากเทียบกับเมื่อปี 1950 ที่มีอัตราส่วนเพียง 1 ใน 13 เท่านั้น อีกทั้งยังคาดการณ์ด้วยว่าภายในปี 2060 อัตราส่วนดังกล่าวก็จะเพิ่มขึ้นกลายเป็น 1 ใน 3 ของโลกเลยทีเดียว
“แรงงานที่มีอำนาจการต่อรองน้อยนั้นจะมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่สูงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีงานที่เป็นการทำสัญญาจ้างงานชั่วคราว ที่ไม่ได้มีการกำหนดระยะเวลาทำงานที่ชัดเจน หรืองานพาร์ทไทม์ที่มีค่าแรงไม่แพงมากเป็นต้น” Forrester ให้ข้อมูล
“การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อรูปแบบการทำงานในยุคอนาคตอีกกว่า 2 ทศวรรษข้างหน้าของยุโรปเพียงเท่านั้น ซึ่งองค์กรในยุโรปนั้นจำเป็นจะต้องมีการปรับใช้ระบบ Automation กันอยู่แล้วเนื่องด้วยจำนวนประชากรวัยทำงานที่ลดลงและงานซ้ำ ๆ ที่ใช้ทักษะต่ำนั้นมีอยู่มหาศาล ซึ่งสามารถทำให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย” คุณ Michael O’Grady นักวิเคราะห์คาดการณ์แห่ง Forrester กล่าว “ระบบ Automation จึงจะกลายเป็นส่วนที่จะเชื่อมให้รัฐบาลยุโรปและแรงงานมองเห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของพวกเขาได้ และทำให้เห็นวิธีจัดการกับปัญหาเรื่องประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นนั้นได้”
Forrester ยังกล่าวอีกว่า ระบบ Robotic Process Automation (RPA) ที่เป็นการใช้งานซอฟต์แวร์ช่วยทำงานเอกสารต่าง ๆ บนหน้าจอได้อัตโนมัตินั้นได้มีการถูกนำมาปรับใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยตลาด RPA ได้มีมูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2019 ซึ่งผู้นำฝั่งยุโรปกว่า 21% ได้กล่าวว่าองค์กรของพวกเขาจะใช้ระบบ RPA กันในปี 2021 ที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่า ระบบอัตโนมัติหรือ Automation ในแบบต่าง ๆ หรือระบบ RPA แบบต่าง ๆ ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในหลากหลายภาคส่วนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่องค์กรจำเป็นจะต้องใช้ เพื่อให้องค์กรยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ได้นั่นเอง
ที่มา: https://www.theregister.com/2022/01/20/europe_automation_forrester/