[Review] เรียนสนุกกับกวางน้อยสอนภาษาด้วยแอป LingoDeer

0

สำหรับใครที่ตั้งเป้าอยากเรียนภาษาต่างประเทศตั้งแต่นับหนึ่งใหม่โดยไม่ต้องเสียเงินลงคอร์สเรียนแพง ๆ พลาดไม่ได้กับรีวิวนี้เลยค่ะที่จะพาคุณผู้อ่านไปรู้จักกับ LingoDeer แอปเรียนภาษาสไตล์ Gamification เอาใจคนรุ่นใหม่ที่อยากฝึกภาษาแบบเพลิน ๆ ได้ทุกวันทุกเวลาจากทุกที่ผ่านมือถือของเราเอง ขอบอกเลยว่า เรียนสนุก เล่นอย่างมีสาระสุด ๆ 

แอปนี้จะน่าใช้ขนาดไหน? มีสอนภาษาอะไรบ้าง? มีฟีเจอร์อะไรเด่น ๆ? ติดตามอ่านกันต่อได้ในรีวิวนี้เลยค่ะ

รู้จักกวางน้อยสอนภาษา LingoDeer

LingoDeer เป็นอีกหนึ่งแอปเรียนภาษาต่างประเทศที่นำเสนอรูปแบบการเรียนภาษาอย่างฉลาดกับสโลแกน “Learn languages smarter, not harder” เพียงวันละ 15 นาที ก็สร้างนิสัยการเรียนภาษาและได้เรียนรู้กับศัพท์สำนวนพร้อมไวยากรณ์ที่ใช้จริงในชีวิตประจำวันโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือต้องใช้ความพยายามสูงในการท่องจำจนเกิดอาการท้อแท้เลิกเรียนกลางคันไปเสียก่อนค่ะ

ตอนนี้ LingoDeer มีภาษาให้เลือกเรียนถึง 12 ภาษา ได้แก่ ภาษาสเปน (ละตินอเมริกา) ภาษาสเปน (สเปน) ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาเลียน ภาษาจีนกลาง ภาษารัสเซีย ภาษาโปรตุเกส ภาษาเวียดนาม และภาษาอาหรับ โดยผู้เรียนสามารถกดเลือกภาษาได้ที่เมนู Drop down มุมซ้ายบนเลยค่ะ

สำหรับภาษาทั้งหมดนี้อยู่ในระดับตั้งแต่ Beginner เริ่มต้นตั้งแต่รู้จักตัวอักษรไปจนถึงวลีและการสร้างประโยคง่าย ๆ ใช้สื่อสารได้ทั่วไป ถ้าเทียบกับมาตรฐานสากลวัดความสามารถทางภาษาตาม CEFR แล้ว ก็คือตั้งแต่ระดับ A1 – B1 ค่ะ

ตรงนี้เราก็สามารถเลือกได้ว่าจะเรียนเป็นภาษาอะไร ถ้าเลือกว่าจะเรียนเป็นภาษาไทย บทเรียนก็จะใช้ภาษาไทยในการแปลเนื้อหาคำศัพท์และประโยคต่าง ๆ ค่ะ

พอเราเลือกภาษาที่ต้องการเรียนแล้ว ก็จะมีบทเรียนตั้งแต่เริ่มรู้จักตัวอักษรของภาษานั้น ๆ ไปจนถึงคำศัพท์ในหมวดต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละหมวดก็จะมีบทเรียนย่อยให้เราค่อย ๆ ฝึกทีละบทค่ะ

สำหรับใครที่มีพื้นฐานอยู่แล้ว ก็สามารถข้ามบทเรียนไปทำแบบทดสอบ (TEST OUT) ก่อนได้ เพื่อปลดล็อกบทเรียนถัดไปค่ะ หรือถ้าใครอยากทบทวนความรู้เก่าก็เริ่มเรียนตั้งแต่ต้นได้เลยค่ะ

วิธีการสอนภาษาของแอปนี้ไม่ใช่การนั่งฟังคลิปเลคเชอร์ยาว ๆ แต่เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยมีเกมแบบฝึกหัดเป็นสื่อกลางค่ะ การออกแบบบทเรียนเรียกได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ อย่างการสอนคำศัพท์ก็ให้เราดูจากภาพแล้วเลือกรูปที่ถูกต้อง ซึ่งเวลาเรากดแต่ละภาพก็จะมีเสียงคำอ่านให้เราฟัง พอตอบถูก เจ้ากวางน้อยก็จะโผล่มายิ้มแป้นชมเราตามภาพเลยค่ะ

แบบฝึกหัดที่ให้มาก็มีหลากหลายรูปแบบที่ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกฟังและอ่านไปพร้อม ๆ กัน อย่างตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ก็ต่อเนื่องมาจากแบบฝึกหัดตามภาพข้างบนค่ะ พอเรารู้จักคำว่า “หนังสือ” ในภาษาญี่ปุ่นที่ก่อนหน้านี้เราเห็นเป็นภาพแล้ว คราวนี้ก็ลองมาทดสอบความจำกันหน่อยว่าเราจำคำที่พึ่งเรียนมาได้หรือเปล่า โดยรอบนี้ไม่มีภาพให้แล้วค่ะ 

พอผ่านข้อนี้ไปก็เจอตัวอย่างการใช้งานในรูปประโยคพร้อมให้กดฟังเสียงได้ แถมมีคำอธิบายไวยากรณ์เพิ่มเติมด้วยเมื่อเรากดทีละคำค่ะ ถือว่าแอปออกแบบอินเทอร์เฟซการใช้งานมาได้ง่ายมาก ๆ เอื้อต่อการเรียนรู้และทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ในแต่ละบทเรียนก็จะออกแบบมาให้เราเรียนผ่านการทำแบบฝึกหัดต่าง ๆ ซึ่งก็เหมือนกับการเล่นเกมแบบหนึ่งเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคำถามแบบ Multiple choice, เติมคำ, เรียงประโยค, จับคู่, แต่งประโยค ซึ่งเราก็จะค่อย ๆ เพิ่มพูนคำศัพท์ในแต่ละบทไปทีละนิดและได้ทบทวนก่อนที่จะต่อยอดไปสู่ไวยากรณ์และการสร้างประโยคค่ะ 

การเรียนแบบนี้ทำให้เราไม่รู้สึกว่าต้องท่องจำอะไรมากมายเลย พอเห็นคำใหม่ที่พึ่งเรียนผ่านตาบ่อย ๆ เราก็จะจำคำนั้นได้เอง ยิ่งเห็นบ่อย ได้ยินบ่อย ก็ยิ่งเพิ่มคลังศัพท์มากขึ้นพร้อมใช้งานให้สามารถแต่งประโยคเองและสื่อสารได้ไปโดยปริยายค่ะ 

พอเรียนจบในแต่ละบทแล้ว ก็จะสรุปสิ่งที่เราได้เรียนรู้ไป และมีเปอร์เซ็นต์บอกด้วยว่า เราทำแบบฝึกหัดถูกมากน้อยแค่ไหน รวมถึงค่า XP ที่บอกว่าในแต่ละวันเราเรียนได้มากน้อยแค่ไหน และทำ Streak ต่อเนื่องได้เท่าไร เป็นการเอาชนะตัวเองในแต่ละวันและสร้างวินัยการเรียนรู้ในทุกวันด้วยค่ะ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้เราก็สามารถไปดูในหน้าโปรไฟล์ได้ค่ะ

นอกจากบทเรียนที่แยกย่อยออกมาตามแต่ละธีมหัวข้อแล้ว ยังมีบทเรียนเสริมที่ให้เราฝึกอ่านพร้อมคำถามวัดความเข้าใจ และแบบฝึกพูดตามให้เราอัดเสียงเพื่อเทียบกับต้นฉบับ แถมมีภาพประกอบน่ารัก ๆ ประกอบเรื่องราวเสริมความเข้าใจเนื้อหายิ่งขึ้นด้วยค่ะ

ฟีเจอร์หนึ่งที่ผู้เรียนภาษาเอเชียอย่างภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี น่าจะชอบคือ การแสดงตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นคำอ่าน Pinyin (พินยิน – ภาษาจีน), Romaji (โรมาจิ – ภาษาญี่ปุ่น), Romaja (โรมาจา – ภาษาเกาหลี) ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกได้ว่า จะเปิดคำอ่านประกอบไปด้วย หรือจะปิดเพื่อฝึกการอ่านตัวอักษรภาษานั้น ๆ ก็ได้ค่ะ โดยสามารถกดที่รูปฟันเฟืองมุมขวาได้เลยค่ะ

สำหรับภาษาญี่ปุ่นที่มีทั้งตัวอักษรคันจิ (ตัวอักษรจีน) และตัวอักษรคะตะคะนะ ก็สามารถเลือกให้แสดงตัวอักษรฮิรางานะหรือ Romaji ได้เช่นกันค่ะ

แอป LingoDeer ก็มีรางวัลให้เราได้สนุกกับการเก็บสะสมและรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จเล็ก ๆ ด้วยนะคะ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ได้กลับมาและคุ้มค่ายิ่งกว่าเหรียญรางวัล คือ ความรู้ที่ได้ และยิ่งไปกว่านั้น คือ การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องอันเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาภาษานั่นเองค่ะ

ต้องบอกก่อนว่า LingoDeer ยังมีฟีเจอร์อีกเพียบให้เราได้ค้นหาและสนุกกับการเรียนภาษา ถ้าใครสนใจอยากเรียนภาษาใหม่ ๆ แล้ว ก็ไปดาวน์โหลดกันได้เลยที่ Google Play หรือ App Store หรือจะเข้าไปเล่นผ่านเว็บไซต์ https://www.lingodeer.com/ ค่ะ

ทั้งนี้ ถ้าผู้เรียนต้องการเข้าถึงเนื้อหาและฟีเจอร์ทั้งหมด เช่น ดาวน์โหลดมาใช้งานแบบออฟไลน์ ก็สามารถสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมผ่านแอปได้ค่ะ แต่เท่าที่ผู้รีวิวลองใช้งานแบบฟรีดูแล้ว ก็มีอะไรให้เรียนได้เยอะแยะเลยค่ะ ขอให้สนุกกับการเรียนภาษากับกวางน้อย LingoDeer นะคะ