แต่ละคนคงมีวิธีการกินคุกกี้ Oreo ตามสไตล์เฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะกินทั้งชิ้นหรือกินแบบ “บิด ชิมครีม จุ่มนม” แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมคุกกี้ที่บิดแล้วถึงมีไส้ครีมติดอยู่ที่ฝาเดียว?

นักวิจัย MIT พยายามไขปริศนาว่า เป็นไปได้ไหมที่จะบิดให้ครีมติดอยู่บนคุกกี้ทั้งสองฝาเท่า ๆ กัน จึงได้ประดิษฐ์เครื่องมือชิ้นหนึ่งขึ้นมาด้วยวิธีการพิมพ์สามมิติ โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า Oreometer ซึ่งออกแบบมาสำหรับคุกกี้ Oreo และวัตถุกลม ๆ โดยเฉพาะ
เครื่อง Oreometer เป็นอุปกรณ์ที่พิมพ์สามมิติขึ้นมา โดยมีแถบยางและเหรียญมาใช้เพื่อควบคุมแรงบิดที่ใช้ในแต่ละด้านขณะที่บิดคุกกี้ออกจากกัน เมื่อเติมเหรียญเข้าไปข้างหนึ่ง ก็จะค่อย ๆ บิดฝาคุกกี้ทีละด้านจนแยกชิ้นออกมาได้สำเร็จ
ทีมนักวิจัยถึงขั้นศึกษาอัตราส่วนของครีมกับคุกกี้อย่างจริงจัง และทดลองคุกกี้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบจุ่มคุกกี้กับนมก่อน หรือทดลองกับคุกกี้ต่างรสและปริมาณไส้ครีมที่ไม่เท่ากัน อย่างไส้ครีมขนาดปกติ, Double Stuf หรือ Mega Stuf แต่ผลที่ออกมาคือไม่พบความต่างแต่อย่างใด

ถึงตอนนี้ทีมนักวิจัยก็ยังหาวิธีบิดครีมให้ออกมาเท่ากันทั้งสองฝาคุกกี้ไม่ได้ แต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่บิดคุกกี้แล้วครีมติดอยู่ฝาเดียวอาจเป็นเพราะกระบวนการผลิตที่เริ่มจากการวางฝาคุกกี้ด้านล่างแล้วค่อยหยอดครีมลงมาก่อนประกบคุกกี้ฝาบน ซึ่งเวลาหน่วงเพียงเล็กน้อยระหว่างกำลังประกอบคุกกี้ฝาบนลงมาอาจทำให้ครีมเกาะติดกับแผ่นคุกกี้ด้านล่างได้ดีขึ้นนั่นเอง
ถ้าถามว่าวิจัยคุกกี้จนเกิดเป็นศาสตร์ Oreology ไปเพื่ออะไร ทีมวิจัยได้เผยว่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการพิมพ์ของเหลวได้เช่นกัน อย่างการออกแบบหมึกสำหรับการพิมพ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความยืดหยุ่นจากท่อนาโนคอร์บอน เป็นต้น
งานวิจัยนี้เผยแพร่ในวารสาร Physics of Fluids ซึ่งทีมวิจัยทำการทดลองศึกษาในเชิงวิทยากระแส (Rheology) และสำหรับผู้ที่อยากทดลองด้วยตัวเอง ก็สามารถดาวน์โหลดไฟล์แบบพิมพ์ 3 มิติไปทดลองสร้าง Oreometer เองได้ด้วย แต่อย่าลืมกินคุกกี้ที่ทดลองแล้วด้วยนะคะ