Tata Motors ผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติอินเดีย ล่าสุดจากการประชุมผู้ถือหุ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมา คุณ Natarajan Chandrasekaran ประธานบริษัทได้เผยว่าต้องการที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้า EV ให้ได้ 50,000 คันภายในสิ้นปีงบประมาณนี้ หรือภายในวันที่ 31 มีนาคมปีหน้า
นอกจากนี้ ตามข้อมูลจากทาง Reuters ทางคุณ Chandrasekaran ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงปีถัดไป ทาง Tata มุ่งหวังที่จะขายรถยนต์ EV ให้ได้ถึง 100,000 คันอีกด้วย
การผลักดันยอดขายรถยนต์ EV นั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เดินตามแผนระดับชาติของอินเดีย เพื่อที่จะทำให้ยอดขายรถยนต์ทั้งหมด 30% เป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 ซึ่งจากวันนี้อยู่ที่ 1% เท่านั้น นอกจากนี้ ยังต้องการให้ยอดขายรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (e-scooter) และจักรยานไฟฟ้า (e-bike) ให้กลายเป็น 80% จากยอดขายรถสองล้อทั้งหมด จากที่วันนี้อยู่ที่ 2% เท่านั้น
ด้วยภาษีนำเข้ารถยนต์ EV ของประเทศอินเดียนั้นค่อนข้างสูง การที่จะไปให้ถึงจุดนั้นหรือผลักดันให้พลเมืองเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ตามเป้าหมาย จึงต้องขึ้นกับกำลังการผลิตภายในประเทศเป็นสำคัญ เพราะแม้แต่ Tesla ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ยังต้องหยุดแผนที่จะนำเข้ารถยนต์ไปขายในอินเดีย อันเนื่องด้วยเงื่อนไขข้อจำกัดที่ว่าอินเดียไม่อนุญาตให้นำเข้ายานยนต์จากจีนมาขายหรือให้บริการ
ทั้งนี้ ด้วยแบรนด์ Tata ที่ครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอินเดียไปถึง 90% และดูมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ คุณ Chandrasekaran จึงยังมีมุมมองที่ดีในปีงบประมาณนี้ของ Tata และคาดว่าน่าจะสามารถไปถึงเป้าหมายได้ แม้ว่าจะมีสถานการณ์วิกฤตทั้งเรื่องเซมิคอนดักเตอร์ หรือว่าเรื่องอุปทานที่ขาดแคลนก็ตาม
ที่มา: https://techcrunch.com/2022/07/04/indias-tata-motors-wants-to-sell-50000-evs-by-end-of-fiscal-year/