แม้ว่าช่วงนี้เราจะได้รับรู้ถึงวิกฤตการณ์เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นรอบโลกส่งผลข้าวของเครื่องใช้ก็มีแพงขึ้นตามจนทำให้หลาย ๆ อาจตัดสินใจลดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าฟุ่มเฟือยลงไป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือว่าบัญชีสตรีมอย่าง Netflix ก็อาจจะยกเลิกไปก่อนช่วงนี้
แต่อย่างไรก็ดี ตลาดความสวยความงามในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะเป็นแสงสว่างเล็ก ๆ ที่ยังคงเฉิดฉายอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ ณ ตอนนี้สถานการณ์ในสหรัฐอเมริกาเริ่มเห็นการกลับมาของ “Lipstick Index” ดัชนีลิปสติกที่เป็นอีกตัวหนึ่งซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอย (Recession) นั้นอาจเกิดขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คำว่า “Lipstick Index” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยคุณ Leonard Lauder ประธานคณะกรรมการของ Estee Lauder แบรนด์เครื่องสำอางระดับโลกที่อธิบายถึงยอดขายเครื่องสำอางที่เพิ่มสูงขึ้นมาระหว่างเกิด Recession ขึ้นในช่วงต้นศตวรรษ 2000 ที่ผ่านมา
“คุณอาจจะไม่อยากออกไปกินข้าวนอกบ้านมากเท่าไหร่นักในช่วงนี้ แต่คุณยังสามารถซื้อลิปสติกให้กับตัวเองได้” นักวิเคราะห์จาก Raymond James คุณ Olivia Tong กล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงมาก ๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ผู้คนไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศได้และต้องมีการประชุมงานกันผ่าน Zoom ซึ่งหลาย ๆ ครั้งก็มักจำเป็นจะต้องเปิดกล้องเพื่อพูดคุย จึงส่งผลให้กลุ่มสินค้าความสวยความงามนั้นอาจไม่กระทบมากนัก อีกทั้งยังมีกลุ่มคนบางประเภทที่เมื่อไม่สามารถออกจากบ้านได้ก็มักจะซื้อสินค้าเครื่องสำอางเพื่อลดความตึงเครียดในช่วงที่ผ่านมา จึงส่งผลให้อุตสาหกรรมความงามดูจะสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คุณ Larissa Jensen นักวิเคราะห์ความงามแห่ง NPD จึงเรียกว่า Lipstick Index นั้นจะกลับมาเป็นที่เรียบร้อย แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะลดลงไป แต่ยอดขายเครื่องสำอางต่าง ๆ ล้วนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยยอดขายเครื่องแต่งหน้านั้นเพิ่มสูงขึ้น 20% ยอดขายสกินแคร์สูงขึ้น 12% ยอดขายน้ำหอมสูงขึ้น 15% และยอดขายเครื่องบำรุงผมก็เพิ่มขึ้นถึง 28% เรียกว่าพุ่งขึ้นกับยกทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเลยทีเดียว
เชื่อว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอางที่ราคาเข้าถึงได้ไม่แพงจนเกินไป ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นอีกตัวบ่งชี้ที่บอกได้ว่าตอนนี้สถานการณ์ Recession นั้นอาจเกิดขึ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เป็นได้นั่นเอง
