ผู้บริหารของ Apple ยืนยันว่าบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปซึ่งกำหนดข้อบังคับให้ USB-C เป็นมาตรฐานทั่วไปสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ภายในสิ้นปี 2567
Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Apple กล่าวกับ The Wall Street Journal ว่า “เราไม่มีทางเลือก แน่นอนว่าเราต้องปฏิบัติตาม” นั่นจะหมายถึงการสิ้นสุดขั้วต่อ Lightning ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Apple ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2555 เพื่อแทนที่ขั้วต่อ Dock 30 พินแบบดั้งเดิมของ iPhone และ iPad รุ่นแรกเริ่ม แต่อย่างไรก็ตามยังไม่แน่ชัดว่า USB-C จะมีอยู่บน iPhone ที่วางจำหน่ายเฉพาะในยุโรปเท่านั้นหรือไม่ เพราะด้วยราคาต้นทุนที่อาจจะแพงขึ้นถ้าหาก Apple ปูพรหมใช้ USB-C สำหรับ iPhone ทั้งหมดเพื่อจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งยังพอจะมีเวลาให้ Apple บริหารจัดการเรื่องนี้อีกสักพัก
มีข่าวลือว่า Apple กำลังเริ่มทดสอบ USB-C บน iPhone 15 รุ่นถัดไป แต่ก็อาจจะเปิดตัวพอร์ต USB-C เพื่อใช้งานจริงบน iPhone 16 Series ในปี 2567 สอดคล้องกับคำสั่งของสหภาพยุโรป ว่าด้วยกำหนดการเริ่มบังคับใช้งาน USB-C เป็นมาตรฐานการชาร์จทั่วไป ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 สำหรับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แท็ปแล็ต กล้อง ลำโพงพกพา ชุดหูฟัง และเอียร์บัด ที่จัดจำหน่ายในสหภาพยุโรปทั้งหมด นอกจากนี้ ข้อบังคับนี้ได้รวมไปถึงอุปกรณ์แล็ปท็อปทั้งหมดด้วย โดยจะบังคับใช้การชาร์จผ่าน USB-C ในสหภาพยุโรปภายในกลางปี 2569 ถัดไปเช่นกัน
Alex Agius Saliba โฆษกรัฐสภายุโรปกล่าวว่า “กฎหมายที่พิสูจน์ได้ในอนาคตนี้สามารถพัฒนาโซลูชันการชาร์จที่เป็นนวัตกรรมใหม่ได้ในอนาคต และจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ตั้งแต่ผู้บริโภคจนถึงสภาพแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดที่ชาร์จกองโตอยู่ในบ้านของพวกเขา เปลี่ยนมาใช้ที่ชาร์จร่วมกันในทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาทั้งหมด”
สาระสำคัญในบทกฎหมายของสหภาพยุโรปยังให้สิทธิ์ผู้บริโภคในการเลือกว่าจะซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่มีหรือไม่มีที่ชาร์จมาภายในกล่อง เนื่องจากทุกอุปกรณ์สามารถใช้อะแดปเตอร์ USB-C ตัวเดียวกันได้
Thierry Breton หัวหน้าอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปคาดการณ์ว่า “การพิจารณาคดีจะประหยัดเงินได้ประมาณ 250 ล้านยูโรสำหรับผู้บริโภค”
ที่มา : https://www.executivetraveller.com/news/apple-iphone-usb-c
