AWS ชี้ 6 เทรนด์ขับเคลื่อนนวัตกรรมและการปรับใช้ Machine Learning 

0

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างได้ทำให้เทคโนโลยี AI และ ML มีการปรับใช้งาน (Adoption) กันในวงกว้างอย่างก้าวกระโดด ซึ่งรายงานจาก McKinsey ก็ได้ระบุไว้ชัดเจนด้วยว่า ML สำหรับภาคอุตสาหกรรมและ Applied AI นั้นเป็นเทรนด์สำคัญแห่งปี

จากงาน AWS re:Invent สัปดาห์ก่อน คุณ Bratin Saha รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย AI และ ML แห่ง Amazon นั้นก็ได้ระบุ 6 เทรนด์สำคัญที่กำลังจับตาอยู่ว่าจะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและการปรับใช้เทคโนโลยี Machine Learning ในปี 2022 และต่อ ๆ ไป ดังต่อไปนี้

Trend 1 : ความซับซ้อนของโมเดลจะเติบโตขึ้นไปอีก

คุณ Saha เผยว่าในช่วงไม่กี่ปีทีผ่านมานี้จะเห็นโมเดล ML นั้นมีความซับซ้อนมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ถึงกับใช้คำว่า “Exponential” เลยทีเดียว “หรือพูดอีกนัยก็คือ ภายในเวลา 3 ปี ความซับซ้อนของโมเดล Machine Learning นั้นก็เพิ่มขึ้นราว 1,600 เท่าแล้ว” คุณ Saha กล่าว

วิธีหนึ่งที่จะวัดความซับซ้อนของโมเดล นั่นคือ “จำนวนตัวแปร (Parameter)” ของโมเดลที่มี ซึ่งคุณ Saha ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเมื่อปี 2019 นั้น โมเดล ML ที่เรียกว่าล้ำสมัย State-of-the-art ที่สุดนั้นจะมีตัวแปรราว ๆ 300 ล้านพารามิเตอร์เท่านั้น หากแต่ผ่านมาจนถึงปี 2022 ตัวแปรในโมเดลที่ดีที่สุดนั้นมีมากกว่า 500,000 ล้านพารามิเตอร์เข้าไปแล้ว 

โมเดลขนาดใหญ่ตอนนี้กำลังจะเรียกกันว่าเป็น “โมเดลฐาน (Foundation Model)” ที่เมื่อฝึกฝน (Train) ด้วยข้อมูล Data Set ขนาดใหญ่แล้วก็จะสามารถนำไปใช้ซ้ำ (Reuse) หรือว่าปรับแต่ง (Tune) ไปใช้ในงานอื่น ๆ ที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งองค์กรทั้งหลายก็จะได้ประโยชน์จากความซับซ้อนของโมเดลที่เพิ่มขึ้น ที่อนาคตจะง่ายในการปรับใช้ในงานต่าง ๆ กว่าเดิมอีก

Trend 2 : การเติบโตของข้อมูลที่มากขึ้นเรื่อย ๆ 

แน่นอนยุคดิจิทัล ข้อมูลเกิดใหม่ขึ้นมาทุกวันในรูปแบบที่หลากหลายแตกต่างกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าหากองค์กรมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นไว้ก็ย่อมจะนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาเทรนโมเดล ML เพื่อใช้ประโยชน์หาข้อมูลเชิงลึกบางอย่างที่มีประโยชน์เชิงธุรกิจให้ได้ต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มีโครงสร้าง (Structured Data) อย่างเช่นข้อมูลที่เป็นลักษณะตัวอักษร (Text) หรือว่าข้อมูลที่ไร้โครงสร้าง (Unstructured Data) อย่างข้อมูลเสียงหรือวีดีโอ ก็ย่อมจะต้องหาทางที่จะนำมาสร้างโมเดล ML ให้ได้ ซึ่ง AWS นั้นมีบริการที่จะช่วยสนับสนุนการเทรนโมเดล ML ที่จัดการกับข้อมูลชนิดต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อาทิ SageMaker Data Wrangler ที่ช่วยจัดการข้อมูล Unstructured Data ได้ รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ที่สนับสนุนข้อมูลเชิงพื้นที่ (Geospatial data) ได้แล้ว

Trend 3 : ML ในภาคอุตสาหกรรม

AWS มองเห็นเทรนด์ที่จะเริ่มมีการใช้งาน ML ในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน ซึ่งนั่นหมายความว่าจะมีการกำหนดมาตรฐานเครื่องมือ ML รวมทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จะทำให้องค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชัน ML ได้ง่ายขึ้น

คุณ Saha กล่าวว่า ML Industrialization นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างกระบวนการอัตโนมัติ (Automate Development) ได้ รวมทั้งทำให้มีความน่าเชื่อถือ (Reliable) ได้มากขึ้น ที่จะต้องทำให้องค์กรสามารถ Build และ Deploy โมเดลได้จำนวนมากขึ้นกว่าเดิม

AI (artificial intelligence) concept, machine learning, nanotechnologies and face recognition concept, Interactive artificial intelligence digital advertisement in event exhibition hall, CCTV camera

Trend 4 : แอป ML สำหรับ Use Case ที่เฉพาะเจาะจง

นอกจาเรื่องของ ML ในภาคอุตสาหกรรมแล้ว ML ยังเติบโตขึ้นในด้านของแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นมาสำหรับการใช้งานใน Use Case บางอย่างโดยเฉพาะด้วย

คุณ Saha กล่าวว่าลูกค้า AWS ได้ถามหา Use Case การใช้งาน ML แบบอัตโนมัติมาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ AWS ปัจจุบันมีบริการอย่างการถอดข้อความจากเสียง (Voice Transcription) การแปล (Translation) หรือว่าระบบแปลงข้อความเป็นเสียง (Text-To-Speech) หรือการวิเคราะห์ความรู้สึก (Sentiment Analysis) มาให้บริการมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว

Trend 5 : Responsible AI

เรื่องของจริยธรรม AI หรือ Responsible AI คืออีกเรื่องหนึ่งที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก และเป็นสิ่งที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกใบนี้ 

“ด้วยการเติบโตของ AI และ ML จึงทำให้ต้องตระหนักว่าพวกเราควรจะต้องใช้งานมันอย่างมีความรัรบผิดชอบ” คุณ Saha กล่าว

มุมมองของ AWS นั้น Responsible AI จำต้องมีหลากหลายคุณลักษณะ (Attribute) ซึ่งระบบจะต้องมีความยุติธรรม ประพฤติปฏิบัติกับผู้ใช้งานทุกคนอย่างเท่าเทียม ทั้งเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา เพศ หรือว่าคุณลักษณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน รวมทั้งระบบ ML จะต้องสามารถอธิบายได้ด้วย ดังนั้น องค์กรจึงควรเข้าใจว่าโมเดลที่ออกมานั้นทำงานอย่างไร และต้องมีกระบวนการกำกับดูแลเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่า Responsible AI ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

https://o.aolcdn.com/images/dims?thumbnail=640%2C&quality=95&image_uri=https%3A%2F%2Fs.yimg.com%2Fos%2Fcreatr-images%2F2019-12%2F37a07350-25b2-11ea-bfe1-e6a8b8b0b4ac&client=amp-blogside-v2&signature=fd5d1c7a8c3c3cffeae25b299c1dc194ba7fbafd

Trend 6 : ประชาธิปไตยในเรื่อง ML

“ลูกค้าบอกพวกเราว่า พวกเขามักจะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจ้างนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลหัวกะทิที่ต้องการใช้งาน” คุณ Saha กล่าว

คำตอบของความท้าทายในเรื่องประชาธิปไตยของ ML ในมุมมองของคุณ Saha นั้น คือการพัฒนาเครื่องมือ Low Code และ Use Case-driven และเรื่องของการศึกษาที่จะต้องทำอย่างต่อเนื่อง

“AWS ยังคงลงทุนในการเทรนนักพัฒนา ML กลุ่มใหม่อย่างต่อเนื่อง” คุณ Saha กล่าว “Amazon มุ่งมั่นภายใน 2025 พวกเราจะสามารถช่วยผู้คน 29 ล้านคนพัฒนาทักษะทางเทคโนโลยีผ่านคอร์สเทรนเรื่อง Cloud Computing ได้ฟรี”

ที่มา: https://venturebeat.com/ai/aws-names-6-key-trends-driving-machine-learning-innovation-and-adoption/