Google ใช้ AI ทำอะไร?

0

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราได้เห็นความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้งาน AI กันอย่างแพร่หลาย บริษัทเทคโนโลยีอันดับโลกอย่าง Google เองก็เป็นผู้นำในการพัฒนา AI มาแล้วกว่าสองทศวรรษ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมมากมายสำหรับให้คนนับพันล้านคนทั่วโลกได้ใช้งาน ลองมาดูกันว่า Google นำ AI ไปใช้ในผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง

1. Search

ขึ้นชื่อว่า Google ใคร ๆ ก็นึกถึง Search Engine หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ใช้งานกันบนทุกอุปกรณ์ พอ 25 ปีหลังจาก Google เริ่มก่อตั้ง AI ก็เข้ามาช่วยพัฒนาระบบค้นหาในภาษาใหม่ ๆ รวมถึงอินพุตแบบใหม่ เช่น ค้นหาผ่านกล้อง หรือค้นหาด้วยเสียง หรือแม้กระทั่งการค้นหาโดยใส่อินพุตหลาย ๆ อย่างในคราวเดียว ซึ่งก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น

2. Maps

เบื้องหลังความสำเร็จของ Maps ก็คือ AI ที่วิเคราะห์ข้อมูลทันเหตุการณ์เกี่ยวกับสภาพการจราจรและความล่าช้าในการเดินทาง นอกจากนี้ AI ยังอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ เช่น เวลาทำการของสถานที่แต่ละแห่ง ไปจนถึงพื้นที่เขตจำกัดความเร็วด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ได้วางแผนการเดินทางได้ในแต่ละวัน 

3. Pixel

มือถือ Pixel จากค่าย Google ก็ได้ใช้ประโยชน์จาก AI ด้วยความสามารถการแปลภาษาบนแชตได้ถึง 21 ภาษา และยังทำหน้าที่เป็นล่ามในโหมด Interpreter ได้ถึง 6 ภาษา แถมพ่วงความสามารถการลบวัตถุที่เราไม่ต้องการให้ปรากฏในรูปถ่ายได้ด้วยฟีเจอร์ Magic Eraser ที่มาพร้อมกับสมาร์ตโฟนด้วย จนไม่ต้องพึ่งโปรแกรมตัดต่อภาพบนคอมพิวเตอร์อีกต่อไป

Image credit: Google Blog

4. Photos

ทุกวันนี้เราถ่ายรูปกันเยอะมากจนล้นอัลบัม พอเวลาต้องการเรียกกลับขึ้นมาดูก็หาไม่เจอ แต่ด้วย AI บน Google Photos ที่พัฒนาขึ้นเมื่อปี 2015 ก็ช่วยให้ผู้ใช้งานค้นหารูปด้วยคีย์เวิร์ดของสิ่งที่อยู่ในรูปได้ และล่าสุด AI ก็ช่วยจัดระเบียบอัลบั้มของคุณให้คุณไม่ลืมความทรงจำดี ๆ ด้วยฟีเจอร์ “Memories” 

Image credit: Google Blog

5. YouTube

YouTube ใช้ AI ในการสร้างคำบรรยายหรือแคปชันสำหรับวิดีโอ ทำให้เนื้อหาในวิดีโอนั้นเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้น รวมไปถึงกลุ่มผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินด้วย

6. Assistant

เมื่อก่อน เสียงที่คอมพิวเตอร์พูดโต้ตอบกลับมายังไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเสียงมนุษย์เช่นทุกวันนี้ เราจึงได้เห็นพัฒนาการของเทคโนโลยี AI ที่ประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing AI หรือ NLP) บน Google Assistant ผู้ช่วยดิจิทัลที่เข้าใจ โต้ตอบและปฏิบัติตามคำสั่งเสียงของมนุษย์ได้ ดังนั้น ต้องขอบคุณ AI ที่เข้าใจคำสั่ง “Hey Google, what’s the weather like today?” (สภาพอากาศวันนี้เป็นอย่างไร) หรือคำสั่งเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เพราะช่วยทุ่นแรงไปได้ไม่น้อย

7. Gmail

Autocomplete และการตรวจสะกดคำบน Gmail ก็ล้วนเป็นความสามารถของ AI แถมยังช่วยคัดกรองจดหมายสแปมได้ดีกว่าผู้ให้บริการอีเมลรายอื่น ๆ เสียด้วย ด้วยสถิติการบล็อกอีเมลสแปมราว 10 ล้านฉบับต่อนาที และการป้องกันสแปม ฟิชชิง มัลแวร์ต่าง ๆ ได้มากกว่า 99.9%

8. Ads

ธุรกิจทั้งขนาดเล็กและใหญ่ต่างก็พึ่งพา Google Ads ในการเข้าถึงลูกค้าและสร้างธุรกิจให้เติบโต ซึ่ง Google ก็ทำให้การยิงโฆษณาทำได้ง่ายขึ้นด้วย AI เช่น การระบุเป้าหมายของแคมเปญการตลาดผ่าน Performance Max แล้ว AI จะสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงตามช่องทางต่าง ๆ ของ Google ตามงบที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ Google ยังใช้ AI ปรับขนาดวิดีโอโฆษณาจากแนวนอนให้เป็นแนวตั้งหรือกรอบสี่เหลี่ยมโดยอัตโนมัติตามอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานกำลังดูอยู่บน YouTube

9. Cloud

Google ไม่ได้ใช้งาน AI เพียงแค่พัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเองเท่านั้น แต่ยังนำพลังของ AI ส่งต่อให้กับธุรกิจอื่น ๆ ด้วย เพื่อพลิกโฉมรูปแบบการดำเนินงานของธุรกิจนั้น ๆ ซึ่ง Google Cloud ก็ถือว่าได้สร้าง AI มาประยุกต์ใช้เกิดเป็นโซลูชันมากมายที่ลูกค้าสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของตน เช่น DocAI สำหรับการประมวลผลเอกสาร, Contact Center AI สำหรับการปฏิบัติงานคอลเซ็นเตอร์, Vertex Vision AI สำหรับการวิเคราะห์วิดีโอและภาพ, Translation Hub สำหรับการแปลภาษามากกว่า 100 ภาษา และอื่น ๆ อีกมากมาย

บทสรุป

ทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน AI ที่ทาง Google ได้ผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท ในอนาคตคาดว่าเราน่าจะได้เห็นการขยายผลการใช้งาน AI เพิ่มเติมในอีกหลากหลายรูปแบบ เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ใช้งาน ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า Google และบริษัทเจ้าอื่น ๆ จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อโลกได้อีก