การทำงานจากระยะไกล (Remote Work) นั้นยังคงอยู่และดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไป แม้ว่า COVID-19 จะผ่านพ้นไปแล้ว หากแต่งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่าการทำงานแบบกระจายศูนย์เช่นนี้ จะกลายเป็นพื้นที่ที่ทำให้มีความเสี่ยงในการถูกละเมิดข้อมูลองค์กรได้
งานวิจัยใหม่ในชื่อ Work-from-Anywhere Global Study ที่ทาง Fortinet ได้สำรวจกับ 570 องค์กรนั้น พบว่า 60% ขององค์กรนั้นยังคงสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ในขณะที่ 55% นั้นก็กำลังจะเริ่มปรับใช้กลยุทธ์การทำงานแบบ Hybrid Work อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ดี การปรับใช้แนวคิด Work-from-Anywhere นั้นได้ส่งผลทำให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงปลอดภัย (Security Risk) ใหม่ ๆ ที่ทำให้องค์กรจำเป็นต้องพิจารณาและปกป้องให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า 62% ขององค์กรนั้นได้เกิดเหตุการณ์ถูกละเมิดข้อมูล (Data Breach) มาแล้ว ซึ่งบางส่วนเชื่อว่าเป็นผลจากช่องโหว่ที่ให้พนักงานทำงานแบบ Work-from-Anywhere ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้
โดยองค์กรได้อ้างวาการขาดการฝึกฝนในเรื่อง Cybersecurity สำหรับพนักงานที่ทำงานแบบ Hybrid นั้นคือเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับความสำคัญต้น ๆ พร้อมทั้งการขยายเรื่อง Security ระดับองค์กรไปยังออฟฟิศตามบ้านต่าง ๆ หรือว่าสถานที่ทำงานแบบ Remote ด้วย
นอกจากนี้ รายงานยังพบว่าองค์กรส่วนใหญ่ไม่ได้มีการดำเนินการลดความเสี่ยงในการทำงานแบบ Remote Work แต่อย่างใด และแสดงให้เห็นว่า CISOs และผู้นำด้าน Security นั้นกำลังเริ่มลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) ขององค์กรให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนการทำงาน Work-from-Anywhere ในอนาคตได้อย่างมั่นคงปลอดภัย
ดังนั้น สำหรับองค์กรใดที่มีการทำงานเป็น Remote Work หรือ Hybrid Work เรื่องของ Cybersecurity จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งผู้บริหารและพนักงานทุกคนในองค์กรจะต้องให้ความสำคัญ ทั้งอุปกรณ์โซลูชันที่ช่วยปกป้องเครือข่าย ไวรัส Cloud รวมไปถึงเรื่องความรู้เท่าทันภัยคุกคามต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและทุกที่ทุกเวลาเช่นกัน