ก้าวสู่ยุค Edge-to-Cloud อย่างปลอดภัยกับ Aruba EdgeConnect EC-10104 & New Tiered Licenses [Guest Post]

0

ปัจจุบันคำว่า SD-WAN (software-defined wide area networking) กลายเป็นคำที่เราได้ยินกันอย่างแพร่หลาย  รวมถึงมีการใช้งานกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง SD-WAN เป็นการประยุกต์ใช้ WAN เพื่อให้องค์กรรวมเอาฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย อาทิ Routing, Wan Optimization, Stateful firewall มาใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งข้อดีประการหนึ่งของ SD-WAN คือ Application Visibility ที่ช่วยทำให้เรามองเห็นภาพรวมของการใช้งานทราฟฟิกที่วิ่งผ่านลิงก์ของเรา จึงสามารถตรวจสอบ delay หรือ loss ของแอปพลิเคชันได้ ร่วมกับการใช้ฟังก์ชัน load-sharing เพื่อย้ายหรือกระจายข้อมูลไปบนลิงก์ที่มีคุณภาพดีกว่าในช่วงเวลานั้น

Aruba EdgeConnect ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้าน SD-WAN ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 มีความโดดเด่นในเรื่องของการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ การเพิ่มประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน ระบบการทำงานที่แม่นยำ ต่อเนื่องและอัตโนมัติ รวมถึงการเข้าถึงที่ปลอดภัยและเพิ่มเซอร์วิสใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทั้งผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งานกันเลยทีเดียว เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดให้มากยิ่งขึ้น Aruba EdgeConnect ได้เปิดตัว Gateway Model ใหม่ “EC-10104” แพลตฟอร์ม SD-WAN ในราคาที่เป็นมิตร แต่มอบประสิทธิภาพที่สูงเกินราคา เหมาะสำหรับใช้งานในสาขาขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง เช่น องค์กรที่มีสาขากระจายอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศ กลุ่มสาขาของธนาคาร  หรือโฮมออฟฟิศ สำหรับ EC-10104 นั้น รองรับ Bandwidth สูงสุดถึง 500 Mbps มี port 10/100/1000 RJ-45 จำนวน 4 ช่อง (2 WAN, 2 LAN)  รวมถึง USB Interface ให้อีกด้วย และยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้วย NGFW และ WAN-Optimization

มาพร้อมกับ New Subscription License สำหรับลูกค้าใหม่โดยเฉพาะ โดยมีให้เลือก 2 แบบ คือ

  • Foundation License: มี Features มาตรฐานของ SD-WAN ที่จำเป็นต่อการใช้งานครบครัน รวมถึงด้านความปลอดภัยที่รองรับทั้ง NGFW และ SASE
  • เหมาะกับองค์กรที่ต้องการใช้ Orchestrator as-a-service
  • ไม่เน้นการใช้งานร่วมกันโดยตรงระหว่างสาขาและการแบ่ง Segment ของ Network
  • ต้องการ Business Intent Overlays สูงสุด 3 รายการ
  • Advance License: ครอบคลุมความสามารถพื้นฐานของ Foundation Licenses ในส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาจะเป็นการทำ Data Retention และการทำ QoS ขั้นสูง
  • เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายหลายแห่ง ทั้งภาครัฐและเอกชน หรือกลุ่มธนาคารต่างๆ
  • เน้นการเชื่อมต่อระหว่างสาขา
  • สามารถเลือกใช้งาน Orchestrator ได้ทั้งแบบ as-a-service และ On-Premise
  • กำหนด Business Intent Overlays ได้มากถึง 7 รายการ และยังแบ่ง Segment ของ Network ได้ถึง 64 VRF

Licenses ทุกแบบสามารถเพิ่ม Boost WAN Optimization และ Threat Feed (IDS/IPS) ได้ เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเลือกใช้รูปแบบของ Licenses ได้อย่างเหมาะสมตามการใช้งาน

ด้วยคุณสมบัติของ Gateway model และ Subscription License ใหม่นี้ทำให้รูปแบบการใช้งาน EdgeConnect SD-WAN นั้นสามารถตอบโจทย์องค์กรได้ทุกระดับ องค์กรที่เลือกใช้งานจะได้รับประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านของค่าจ่ายที่ลดลง เนื่องจาก SD-WAN ใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ซึ่งมีราคาถูกกว่าการเช่าลิงก์ MPLS เป็นอย่างมาก แต่มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ไม่แพ้กัน หรือองค์กรใดที่มีสาขาห่างไกลและไม่มีฝ่าย IT ดูแล ด้วย SD-WAN ที่มีคุณสมบัติของ Zero-touch Provisioning ซึ่งเพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ฝ่าย IT จากสำนักงานใหญ่ก็สามารถตั้งค่า รวมถึงกำหนดนโยบายการดำเนินงานต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานจากศูนย์กลางได้เลย ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการทำให้สำนักงานสาขาพร้อมให้บริการจากระยะเวลาหลักเดือน เหลือเพียงหลักชั่วโมงหรือหลักวันเท่านั้น และที่สำคัญการใช้งานยังมีความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็น Data Center, Private Cloud หรือ Public Cloud ก็สามารถเชื่อมต่อกันผ่าน SD-WAN ได้เลย โดยที่ไม่กระทบต่อระบบ Infrastructure หลังบ้าน ทำให้องค์กรสามารถก้าวสู่ยุค Edge-to-Cloud ได้อย่างมั่นใจ

VST ECS (Thailand) ขอนำเสนอโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจใน EC-1O1O4 โดยเฉพาะ

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aruba EdgeConnect SD-WAN หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ HPE Aruba Networking สามารถสอบถามได้ที่ [email protected]