เอ็นทีที (NTT Ltd.) บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านไอทีชั้นนำ เปิดเผยผลสรุปรายงานแนวโน้มประสบการณ์ของพนักงานทั่วโลกประจำปี 2023 (2023 Global Employee Experience Trends Report) ซึ่งเป็นการสำรวจว่าพัฒนาการของสถานที่ทำงานในปัจจุบัน เช่น การทำงานแบบไฮบริดเวิร์กและ AI จะมีส่วนต่อยอดกลยุทธ์ EX และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผลการดำเนินธุรกิจและ EX ได้อย่างไร
รายงานดังกล่าวพบว่าในขณะที่ 90% ขององค์กรธุรกิจมองเห็นโอกาสจากการนำการทำงานแบบผสมผสาน (hybrid work) และการทำงานจากระยะไกล (รีโมทเวิร์ก) มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อผลการดำเนินงานทางการเงินของบริษัท แต่มีเพียง 48% ขององค์กรทั่วโลก (51% ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิก) ที่พูดได้เต็มเสียงว่าพนักงานของตนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งจากที่บ้านและในที่ทำงาน
ปัจจุบัน หลายองค์กรนำแนวทางการทำงานที่มีโครงสร้างมากขึ้นมาใช้ โดยรายงานระบุว่าพนักงานไฮบริดเวิร์กประมาณ 56% ทั่วโลก (เอเชียแปซิฟิก 58%) ใช้เวลาครึ่งหนึ่งของสัปดาห์ทำงานที่สำนักงาน อย่างไรก็ตาม ด้วยโมเดลการทำงานแบบไฮบริดที่ผู้นำธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบและยอมรับว่าเป็นพื้นฐานของการสร้างประสบการณ์พนักงานเชิงบวก องค์กรต่างๆ จึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มอบเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการทำงานแบบเต็มประสิทธิภาพให้กับพนักงาน โดยไม่คำนึงถึงสถานที่ สิ่งนี้บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของ EX ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนในปัจจุบัน การเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานในเชิงรุก และจัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อยกระดับการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพ ได้กลายเป็นสิ่งสำคัญต่อกระบวนการทำงานทั่วทั้งธุรกิจ
ผลการสำรวจพบอีกว่า กลุ่มบริษัทชั้นนำศักยภาพสูง1 ที่มีการลงทุนด้านไอทีและเทคโนโลยี EX แบบครบวงจรแล้ว จะมีแนวโน้มรายงานการเติบโตของธุรกิจที่ดีขึ้นมากกว่า 56% เมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทซึ่งมีศักยภาพต่ำกว่า ด้วย EX ที่มีการปรับปรุงและพัฒนามากกว่า ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มเพิ่มคะแนนความพึงพอใจจากพนักงานได้มากกว่า 89% เมื่อเทียบกับบริษัทกลุ่มอื่นทั้งหมด
อามิท ธินกรา รองประธานบริหารฝ่ายบริการเครือข่ายของ NTT แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานวิจัยนี้ว่า “ความแตกต่างระหว่างความต้องการของพนักงานและข้อกำหนดทางธุรกิจยังคงมีนัยสำคัญ บ่อยครั้งที่เราเห็นกลยุทธ์การทำงานแบบไฮบริดเวิร์กที่มุ่งเน้นไปที่รูปแบบการทำงานแบบเดียว ทั้งที่พนักงานต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง”
Dhingra กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ทราบว่า 73% ขององค์กรรับทราบว่าการทำงานแบบไฮบริดเวิร์กและรีโมทเวิร์กได้ขับเคลื่อนการลงทุนสำหรับความคล่องตัวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเชื่อมช่องว่างและการปรับปรุง EX ยังต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อพนักงานพึงพอใจและมีส่วนร่วมแน่นเฟ้นกับองค์กร ก็จะมีแนวโน้มให้บริการลูกค้าได้ดีมากขึ้นถึง 66%”
นอกเหนือจากการทำงานแบบไฮบริดแล้ว EX ยังได้รับอิทธิพลจากการพัฒนาของ AI อีกด้วย โดยเทคโนโลยีเกิดใหม่นี้ได้รับการโหวตลงคะแนนว่าสามารถเป็นตัวเร่งหลักสำหรับดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างประสบการณ์ลูกค้า (CX) รวมถึงประสบการณ์พนักงาน (EX) ในอนาคต ขณะเดียวกัน อินเทอร์เฟซ AI ยังจะไต่ลำดับขึ้นมาเป็นบรรทัดฐานปกติสำหรับ 4 ใน 5 องค์กรภายใน 12 เดือนข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตาม 87% ขององค์กร ยังคงเห็นด้วยว่าการดำเนินงานที่นำโดยมนุษย์ จะยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าต่อไป
ชีล่า แมคกี้-สมิธ ประธานและหัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท McGee-Smith Analytics กล่าวว่า “ผลสำรวจในรายงานของ NTT สะท้อนให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำงานแบบไฮบริด และการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพนักงานอย่างเต็มที่ซึ่งจะยังมีบทบาทต่อไป ขณะเดียวกัน การประยุกต์ใช้ AI มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากผลประโยชน์ทางธุรกิจมากมายที่ได้มาจากการปฏิวัติการทำงานของเทคโนโลยี AI ส่งผลให้ปัจจุบัน องค์กรต่างกำลังแสวงหาแนวทางควบคุมศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่ เพื่อความเป็นเลิศในตลาด พร้อมกับสนับสนุนให้พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดี”
หากต้องการเข้าถึงรายงานฉบับสมบูรณ์ โปรดคลิกที่: https://services.global.ntt/en-us/campaigns/2023-global-employee-experience-trends-report
เกี่ยวกับเอ็นทีที จำกัด
NTT Ltd. เป็นส่วนหนึ่งของ NTT DATA ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านไอทีที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน และบริการด้านไอทีชั้นนำที่ให้บริการบริษัทกว่า 65% ในกลุ่ม Fortune Global 500 และมากกว่า 75% ของกลุ่ม Fortune Global 100 ที่ผ่านมา NTT Ltd. มุ่งวางรากฐานสำหรับองค์กรต่างๆ ทั้งส่วนระบบนิเวศเครือข่าย Edge-to-Cloud, การลดความซับซ้อนของปริมาณงานในสภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์ และการสร้างนวัตกรรมที่เอดจ หรือขอบของสภาพแวดล้อมไอที ที่ซึ่งเครือข่าย คลาวด์ และแอปพลิเคชันมาบรรจบกัน นอกจากนี้ เรายังเน้นนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานที่ปรับแต่งและได้รับประกันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการออกแบบและการดำเนินงาน ภายใต้ศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย ปรับขนาดได้ และปรับแต่งได้ทั้งหมดของ NTT เพื่อการเดินทางสู่อนาคตที่ซอฟต์แวร์มีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจ ปัจจุบัน NTT สนับสนุนองค์กรต่างๆ ด้วยบริการโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งมอบในรูปแพลตฟอร์ม ทำให้สามารถเปิดทางสู่อนาคตที่ข้อมูลทั้งหมดเชื่อมถึงกัน ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมเพิ่มเติมได้ที่ services.global.ntt