“CE Day 2023” ชี้ เทรนด์เทคโนโลยีความปลอดภัย ต้องมี AI ใช้งานง่าย และเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจร

0

จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับงาน “CE Day 2023 : “Unified Security Management with Intelligent Platform”  งานสัมมนาด้านเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย (Safety) ที่ “CommExpress” ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ได้จัดขึ้นในปี 2023 อีกครั้ง ณ โรงแรม S31 Sukhumvit Hotel ในวันที่ 26 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา 

โดยงาน “CE Day 2023” ปีนี้มาพร้อมแนวคิด “การจัดการความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ด้วยแพลตฟอร์มอัจฉริยะ” ซึ่งภายในงานที่บรรยากาศคึกคักด้วยผู้เข้าร่วมงานมากมาย พร้อมทั้งบูธจัดแสดงและหัวข้อสัมมนาที่เข้มข้นครบวงจรของระบบรักษาความปลอดภัย และสาธิตโซลูชันโดยผู้ผลิตชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Avigilon, Hanwha Vision, HID, Intellicene, Quantum, Cisco เป็นต้น ซึ่งจากงานนี้ได้ทำให้เห็นเทรนด์ของเทคโนโลยีความปลอดภัยว่ากำลังจะไปในทิศทางใด กำลังมีประเด็นถกเถียงอะไรกันบ้าง รวมมาให้พูดคุยกันผ่านบทความนี้

ไม่มี AI ไม่มีทางที่จะตรวจสอบทุกอย่างทั้งหมดได้ทัน

แม้ว่าเทคโนโลยี AI นั้นกำลังเป็นเทรนด์ประเด็นร้อน ณ เวลานี้ในแทบทุกวงการ แต่ AI กับเรื่อง Safety นั้นได้มีการนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้การดำเนินการต่าง ๆ มีความรวดเร็วและปลอดภัยขึ้นมาอย่างยาวนานแล้ว

ตัวอย่าง Use Case ที่น่าจะได้เห็นกันทั่วไป เช่น การรู้จำป้ายทะเบียนรถยนต์ (License Plate Recognition) รวมทั้งอัตลักษณ์ของรถยนต์อย่าง รุ่น ยี่ห้อ สี การรู้จำใบหน้า (Facial Recognition) หรือการตรวจจับวัตถุ (Object Detection) ฯลฯ Use Case ต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีระบบ AI อยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

ในอนาคตที่หลาย ๆ เมืองมีเป้าหมายในการเป็น Smart City นั้น ระบบรักษาความปลอดภัยจำต้องสามารถรองรับ Use Case ที่ซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม เช่น การติดตามวัตถุต้องสงสัย คนหาย หรือตรวจจับเหตุการณ์เช่นคนล้ม กันคนเข้าพื้นที่ที่จำกัดการเข้าถึง ตรวจจับพื้นที่น้ำท่วม หรือแม้แต่ติดตามจุดที่อยู่ของผู้ร้ายกราดยิง เป็นต้น ซึ่งการรองรับ Use Case เหล่านี้ล้วนจำเป็นต้องพึ่งพากล้อง CCTV มากขึ้น พร้อมกับขีดความสามารถของ AI ที่ชาญฉลาดขึ้นกว่าเดิม 

และแน่นอนว่าเมื่อกล้องมากขึ้น การตรวจจับเหตุการณ์หรือวัตถุต่าง ๆ จากกล้อง CCTV จำนวนมากโดยใช้แรงงานมนุษย์เพียงอย่างเดียวก็จะยิ่งมีโอกาสดำเนินการผิดพลาดสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าของร่างกาย หรือว่าเรื่องจำนวนกล้องที่มากเกินกว่าจะตรวจสอบได้ตลอด 24 ชม. เช่นนี้เอง ระบบ AI จึงจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องแน่นอน

AI ต้องเข้าใจถึงระดับความหมาย (Semantics)

สมมติว่าเป็นภาพคนถือมีดแบบเดียวกัน แต่ภาพหนึ่งเป็นคนถือมืดกลางห้างสรรพสินค้ากับอีกคนถือมีดอยู่ในครัว ระบบ AI ควรจะต้องแจ้งเตือนทั้งสองภาพหรือไม่ ? 

นี่คือเรื่องของความฉลาดของระบบ AI ที่จะต้องเข้าใจถึงระดับ “ความหมาย (Semantics)” ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าการทำให้ระบบ AI มีความฉลาดมากขึ้นได้นั้น จำเป็นจะต้องมี “ข้อมูล (Data) ” ที่ถูกต้องจำนวนมหาศาลในการให้โมเดล AI สามารถเรียนรู้ ฝึกฝน (Training) ได้อย่างถูกต้อง ก่อนที่จะนำไปใช้งานได้จริง

เช่นนี้ หากเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องมี AI มาช่วยสนับสนุน หัวใจสำคัญจึงยังคงเป็นเรื่อง Data ที่จะต้องสอนการให้ความหมาย ทำให้โมเดลคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้เหมือนกับมนุษย์ ซึ่งความถูกต้อง แม่นยำ จะเป็นจุดที่ตัดสินว่าระบบ AI ของผู้ผลิตนั้น ๆ สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ เพราะถ้าหากโมเดลตอบผิดพลาดบ่อยครั้ง ก็อาจจะกลายเป็นภาระต่อผู้ปฏิบัติงานหน้างานแทน เป็นต้น

Data Interoperability คือสิ่งที่ต้องเริ่มพิจารณา

เพราะเบื้องหลังของเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นข้อมูลภาพจากกล้อง CCTV ที่จัดเก็บอย่างมหาศาล และข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่มีการติดตั้งไว้ตามที่ต่าง ๆ ซึ่งหลายครั้งข้อมูลเหล่านั้นมักจะถูกจัดเก็บแยกกันไว้ ไม่ได้นำมาบูรณาการหรือนำข้อมูลมาทำงานร่วมกัน จึงทำให้การใช้ประโยชน์จากข้อมูลกับโมเดล AI อาจจะยังไม่ได้ใช้เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร

การทำงานร่วมกันของข้อมูล (Data Interoperability) จึงเป็นเรื่องต่อไปที่กำลังเริ่มพิจารณากัน ตัวอย่างเช่น การทำให้ระบบ AI รู้ได้ว่าภาพในกล้องนั้นคือระดับน้ำ หรือว่าเป็นมาตรวัดอะไรบางอย่างโดยสามารถตรวจสอบอิงกับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ได้ ซึ่งถ้าหากถึงค่าเกณฑ์ (Threshold) หนึ่งแล้ว ให้ระบบดำเนินการอะไรบางอย่างทันที เป็นต้น 

จะเห็นได้ว่าการนำข้อมูลที่ข้ามโดเมน (Cross Domain) กันมาให้ AI เรียนรู้นั้นสามารถทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บมานั้นมีคุณค่ามากขึ้นกว่าเดิมได้อีกระดับขั้น ดังนั้น Data Interoperability ที่สามารถเชื่อมโยงใช้ประโยชน์จากข้อมูลหลายโดเมนนั้นจะเริ่มมีความสำคัญสำหรับระบบ Safety ที่จะให้บริการในอนาคตอย่างแน่นอน

โซลูชันความปลอดภัยเริ่มทรานสฟอร์มเป็นแพลตฟอร์มครบวงจรมากขึ้น

จากงาน CE Day 2023 เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้าได้พัฒนาออกมาเป็น “แพลตฟอร์ม” โซลูชันที่ครบจบในตัวเองได้คล้าย ๆ กันแล้ว 

ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน AI ที่มีใส่เข้าไปในแพลตฟอร์มของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น รู้จำวัตถุ (Object Detection) ได้ สามารถสแกนคนถือกระเป๋าหรือคนเดินผ่านไปมาได้ ไปจนถึงระบบเฝ้าระวังเหตุการณ์ต้องสงสัยอย่างการตรวจจับคนหยิบปืนขึ้นมา หรือจับใบหน้าผู้ก่อการร้าย โซลูชันก็จะสามารถส่งต่อแจ้งเตือน (Alert) ไปที่ผู้เกี่ยวข้องได้อย่างอัตโนมัติทันที ซึ่งอาจจะต่อยอดเชื่อมโยงไปยังประตู Access Control ได้ในอนาคตต่อไป

นอกจากนี้ ภายในโซลูชันจะมาพร้อมกับระบบสืบค้นข้อมูล (Search Engine) มีหน้าแดชบอร์ด (Dashboard) ดูภาพรวม พร้อมระบบ Data Analytics วิเคราะห์หา Insight ให้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจดำเนินการได้แม่นยำขึ้น การออกรายงาน (Report) ที่สามารถส่งต่อได้ทันที ทั้งหมดพร้อมตอบโจทย์ผู้ปฏิบัติการหน้างานได้ผ่านแพลตฟอร์มที่ครบวงจร ซึ่งสามารถลดเวลาในการทำงานของผู้ปฏิบัติงานลงไปได้อย่างมหาศาล 

“ความง่าย” ของผู้ปฏิบัติการหน้างานคือสิ่งที่ห้ามลืม

หลายครั้งที่ผู้ให้บริการโซลูชันความปลอดภัยพัฒนาออกมาอย่างหรูหรา มาพร้อมฟีเจอร์มากมาย แต่การใช้งานได้ “ยาก” กว่าที่ควรจะเป็น

หนึ่งในปัญหาที่หลายองค์กรพบเจอ คือเรื่อง “ความยุ่งยาก” ทั้ง “ซับซ้อน” และ “ซ้ำซ้อน” กับระบบที่องค์กรมีเลือกใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่หน้างาน (Operation) ที่ต้องดูแลระบบเหล่านั้นมีความลำบากในการปฏิบัติ ซึ่งสิ่งนี้จะนำมาสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะแน่นอนว่าไม่ว่าใครก็ตามก็คงจะไม่ต้องการใช้งานระบบที่ยากจนเกินไปนัก

ดังนั้น การออกแบบประสบการณ์การใช้งานโซลูชันหรือระบบที่ “ง่าย” ต่อผู้ปฏิบัติการนั้นจะเป็นอีกหนึ่งตัวตัดสินและทวีมีความสำคัญในการให้บริการด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยสำหรับยุคอนาคตขององค์กรต่าง ๆ ว่าจะเลือกใช้งานแพลตฟอร์มหรือโซลูชันจากเจ้าใด นอกเหนือจากเรื่องของฉลาดของระบบ AI อย่างแน่นอน

บทส่งท้าย

ทั้งหมดนี้คือเทรนด์ของเทคโนโลยีความปลอดภัยและประเด็นที่กำลังถกเถียงกันอยู่ภายในงาน CE Day 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งประโยคที่อยากจะฝากไว้คือ “แค่ติดกล้อง CCTV อย่างเดียวนั้นไม่ได้ทำให้ปลอดภัย แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เสริมเข้าไปเพื่อให้เกิดคำว่า Safety” โดยองค์ประกอบดังกล่าวนั้นมีอยู่มากมายตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น และหนึ่งในนั้นชัดเจนว่าคือ “AI” ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปทั้งเรื่องเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มโซลูชันของผู้ผลิตแต่ละเจ้านั้นจะวิวัฒนาการไปทางใดต่อไป