ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคทองของเทคโนโลยี AI เป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะหลังจาก ChatGPT ได้กำเนิดขึ้น โลกก็ได้มีโมเดล generative AI (Gen AI) หลากหลายรูปแบบเกิดตามมา จนทำให้ทั้งโลกแทบจะพลิกโฉม เปลี่ยนรูปแบบการทำงานในลักษณะที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหลายอาชีพหรือหลายแอปนั้นมีโอกาสถูกดิสรัปและเลือนหายไปจากโลกในเร็ววันนี้ก็เป็นได้ ถ้าหากไม่ปรับตัวให้ทันกับยุค “AI Transformation”
สำหรับฝั่ง Google ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีนั้นก็ไม่หยุดนิ่งเช่นกัน โดย Google Cloud ได้ชู 2 ผลิตภัณฑ์ที่พร้อมหนุนทรานส์ฟอร์มองค์กร ได้แก่ “Vertex AI” แพลตฟอร์มพัฒนา Gen AI ระดับองค์กร และ “Duet AI” ระบบ Gen AI ที่เสริมผลิตภาพ (Productivity) สำหรับผู้ใช้งานธุรกิจ (Business User) ให้สามารถเร่งการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอีกระดับขั้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มารู้จักกับ 2 Gen AI จาก Google Cloud กันให้มากขึ้นได้ในบทความนี้
“Vertex AI” แพลตฟอร์มพร้อมสนับสนุนการพัฒนา Gen AI ระดับองค์กร
Vertex AI คือแพลตฟอร์มพัฒนาระบบ AI/ML และ Gen AI ที่ทาง Google Cloud ได้เปิดตัวขึ้นมาตั้งแต่ปี 2021 จากในงาน Google I/O โดยบริษัทได้สร้างแพลตฟอร์ม Vertex AI ระดับองค์กรเพื่อให้สามารถใช้พัฒนาระบบ AI/ML ได้แบบรวมศูนย์ ไม่ว่าจะ Train, Test หรือ Deploy โมเดลที่เรียนรู้ได้สำเร็จขึ้นสู่ระบบ Production ได้ทันทีภายในที่เดียว
จนถึงวันนี้ Vertex AI ได้กลายเป็น “แพลตฟอร์ม” ที่พร้อมสนับสนุนการพัฒนาระบบ Gen AI ระดับองค์กร ที่มีเครื่องมือ โซลูชัน โมเดล และสิ่งต่าง ๆ ที่พร้อมใช้ในหลากหลายรูปแบบสำหรับการพัฒนา Gen AI ไม่ว่าจะเป็น
- Custom ML Platform แพลตฟอร์มสำหรับสนับสนุนการพัฒนาและ Deploy โมเดล ML ที่ช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการโมเดล ML ต่าง ๆ ทั้ง Workflow และ Infrastructure ได้อย่างยืดหยุ่น
- Generative AI Studio เครื่องมือ Low-Code ที่พร้อมสนับสนุนการปรับแต่ง (Tuning) และ Deploy โมเดล Gen AI หรือ LLMs ต่าง ๆ ขึ้นสู่ Production ได้อย่างรวดเร็ว
- Model Garden คลัง Foundation Model ที่มีให้เลือกใช้และนำไปต่อยอดใช้งานได้ทันที โดยภายในนั้นมีทั้งโมเดลที่เป็นของทาง Google เองอย่างเช่น PaLM 2, Codey, Imagen, Chirp, Sec-PaLM 2, Med-PaLM 2 และโมเดลจากพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ อีกกว่า 60 โมเดล เช่น Claude 2 ของ Anthropic, Llama 2 ของ Meta เป็นต้น
ต่อยอดนวัตกรรม Gen AI ได้ฉับไวผ่าน Vertex AI
นอกจากแพลตฟอร์มพัฒนา Gen AI ขึ้นมาเองแล้ว ภายใน Vertex AI ยังมี Gen AI ส่วนอื่น ๆ ที่พร้อมใช้งานต่อยอด สร้างเป็นแอปพลิเคชันให้บริการได้ทันที อาทิ
- Vertex AI Search and Conversation (ก่อนหน้านี้คือ Gen App Builder) ฟีเจอร์ที่ทำให้นักพัฒนาระบบสามารถสร้างหน้าจอแอปสืบค้น (Search) หรือแอปสนทนาแชทบอท (Chatbot) ขององค์กรเองได้ภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น
- AI Solutions โซลูชัน Gen AI ที่สร้างต่อยอดบน Vertex AI ไว้ให้พร้อมใช้งานได้เลย เช่น Contact Center AI ที่ทำให้ผู้ใช้สร้าง AI Agent สนับสนุนลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Document AI ที่สามารถส่งไฟล์เอกสารองค์กร อย่างใบแจ้งหนี้ (Invoice) หรือใบเสนอราคา (Quotation) ที่มีเข้าไปจัดเก็บ แล้วให้ Document AI ช่วยคัดแยก (Classify) สกัด (Extract) ข้อมูลต่าง ๆ ออกมาให้อย่างอัตโนมัติเพื่อนำไปใช้งานต่อได้เลย เป็นต้น
จะเห็นได้ว่า Vertex AI คือแพลตฟอร์มระดับองค์กรที่พร้อมสนับสนุนให้ทุกธุรกิจสามารถสร้างหรือพัฒนาแอป Gen AI ยุคใหม่หรือ ML ที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็วขึ้น และที่สำคัญด้วยการทำงานผ่าน Google Cloud ที่สามารถควบคุมการเข้าถึงของข้อมูลได้อย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้ข้อมูลขององค์กรมีความปลอดภัยในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (Data Privacy) และตอบโจทย์เรื่องธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) ขององค์กรได้อย่างแน่นอน
“Duet AI” เครื่องมือ Gen AI เสริม Productivity ให้กับทุก Business User
Duet AI นั้นเป็นเครื่องมือ Gen AI ที่ทาง Google เพิ่งประกาศเปิดตัวในงาน Google I/O ช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนนี้ ทาง Google ได้ประกาศว่า Duet AI นั้นพร้อมสนับสนุนบน Google Workspace เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย Duet AI บน Google Workspace นั้นเรียกได้ว่าเครื่องมือ Gen AI ที่จะติดปีกให้กับผู้ใช้งานทุกคนโดยเฉพาะ Business User ในการใช้งานแอปต่าง ๆ บน Google Workspace ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Meet, Docs, Slides หรือ Sheets ที่จะทำให้การทำงานในอนาคตของทุกคนนั้นมี Productivity สูงขึ้นอย่างมหาศาล จนทำให้หลาย ๆ สิ่งที่ต้องใช้เวลาจัดทำนาน ๆ ในอดีตอย่างเช่นการทำรายงาน ทำข้อมูล หรือจดบันทึกการประชุม สามารถดำเนินการได้ “เสร็จ” เร็วชนิดที่คาดไม่ถึงเลย
สำหรับองค์กรที่มี Google Workspace Subscription Plan สามารถสมัครเริ่มทดลองใช้งาน Duet AI บน Google Workspace ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ส่วนบัญชีทั่วไปสามารถขอ Early Access ทดลองเข้าใช้งาน Duet AI ได้ที่ลิงก์นี้
5 ฟีเจอร์ยกระดับการทำงานด้วย Duet AI บน Google Workspace
หากใครเคยใช้ Google Workspace มาก่อน Duet AI จะยิ่งยกระดับการใช้งานในแอปต่าง ๆ ไปอีกขั้น ผ่าน 5 ฟีเจอร์ของ Duet AI บน Google Workspace ที่มีพร้อมให้บริการแล้ว ดังต่อไปนี้
1. Help me write
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอีเมล เขียนเอกสาร หรือบล็อก สามารถกดปุ่ม Help me write แล้วส่ง Prompt รายละเอียดเรื่องราวที่ต้องการเขียนให้ Duet AI ที่อยู่บนหน้า Docs หรือ Gmail ช่วยเขียนได้เลย ซึ่ง Duet AI จะสร้างบทความหรือข้อความตามที่ต้องการขึ้นมาภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถสั่งให้ Duet AI ปรับแต่งให้เพิ่มความยาวหรือว่าโทนของบทความได้ในไม่กี่คลิกเท่านั้นอีกด้วย
2. Help me organize
บริหารจัดการข้อมูลบน Sheets ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ด้วยการใส่ Prompt เข้าไปในช่อง Help me organize อธิบายชนิดข้อมูลที่ต้องการ แล้วส่งให้ Duet AI จัดการสร้างขึ้นมาได้อย่างอัตโนมัติ อย่างเช่น ให้ Duet AI ช่วยสร้าง Agenda สำหรับงานอบรมพนักงานขายพร้อมกับใส่สถานะงานขึ้นมาให้หน่อย เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ Sheets สร้างข้อมูลเชิงตารางนั้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
3. Help me visualize
อยากได้ภาพอะไรก็สามารถรังสรรค์ภาพตามจินตนาการได้อย่างง่ายดายบน Slides ด้วยการใส่ Prompt คำอธิบายภาพที่ต้องการลงไปในช่อง Help me visualize ให้ Duet AI ช่วยสร้างภาพตามคำอธิบายขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เอาไปประกอบไฟล์นำเสนอได้อย่างตรงใจ และทำให้การนำเสนอเกิดขึ้นได้อย่างน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมและแตกต่างจากที่เคยจัดทำมาก่อนหน้านี้
4. Help me connect
การเชื่อมต่อกันผ่าน Meet ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือว่าลูกค้า จะมีความสนุกสนานมากกว่าที่ผ่านมา ทั้งการสร้างภาพพื้นหลังแบบ Custom ได้ด้วย Prompt ส่งให้ Duet AI สร้างขึ้นมาให้เลือกใช้ได้ทันทีตอนประชุม พร้อมทั้ง Effects ระบบเพิ่มคุณภาพของวีดีโอและเสียงให้ดีขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้กล้องเว็บแคมที่มีสภาพแสงน้อย
อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้ Duet AI สำหรับ Meet นั้นจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เสริมการประชุมให้ง่ายขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น
- แสงไฟแบบสตูดิโอ (Studio Lighting) แม้สภาพแสงในห้องที่ประชุมจะน้อย แต่ Duet AI ก็พร้อมช่วยปรับให้ภาพที่แสดงบน Meet นั้นสวยงามเหมือนอยู่ในสตูดิโอ ทำให้การประชุมไหลลื่นมากขึ้นได้
- คำบรรยายที่แปลภาษาอัตโนมัติ (Automatic Translated Captions) ทำให้การประชุมกับทีมงานหลากหลายเชื้อชาติสามารถพูดคุยกันผ่าน Meet ได้ด้วยภาษาที่ต่างกันได้แบบ Real Time โดยคำบรรยายจะมีการแปลภาษาให้อัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันสามารถแปลภาษาได้มากถึง 30 คู่ภาษาแล้ว
- ปรับโทนเสียงแบบ Real-Time (Real-Time Teleprompting) ที่จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปในโทนที่เหมาะสมได้ตามข้อความที่พูดแบบ Real-Time เหมือนกับการถ่ายทำในสตูดิโอ
- จดบันทึกให้ฉัน (Take notes for me) การประชุมบน Meet ที่จะมีระบบ Duet AI ช่วยจดบันทึกการประชุมให้ว่าใครพูดอะไรบ้าง แล้วสามารถสร้างบันทึกการประชุมออกมาเป็นไฟล์ Docs ที่นำไปใช้งานต่อได้ทันที พร้อมทั้งมีจุดเวลาสำคัญ ๆ ที่อ้างอิงด้วยว่าใครพูดอะไร ณ วินาทีไหน
- เข้าประชุมแทนฉัน (Attend for me) หลาย ๆ คนน่าจะมีประสบการณ์ตารางแน่นชนกันไปหมด หลังจากนี้จะง่ายขึ้น โดยให้ Duet AI เข้าประชุมแทนผ่าน Meet ในบางประชุม ซึ่งหากมีคำถามต้องตอบเกิดขึ้นในที่ประชุม Duet AI จะช่วยจดบันทึกแล้วส่งกลับมาให้พิจารณาได้อย่างอัตโนมัติ
5. Help me create an app
การสร้างแอปพลิเคชันที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมผ่าน Prompt ที่ส่งต่อให้กับ AppSheet เครื่องมือพัฒนาแอปแบบ No Code ไปจัดการต่อได้เลยโดยที่ไม่ต้องเขียนโค้ดใด ๆ แม้แต่บรรทัดเดียว ทำให้กระบวนการทางธุรกิจดำเนินไปได้อย่างอัตโนมัติมากขึ้น เช่น การสร้างแอปติดตามความคืบหน้าโครงการ ที่สามารถส่ง Prompt บอกผ่าน Duet AI ว่าต้องการสร้างหน้าจอแอปพร้อมเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ ซึ่ง Duet AI จัดให้ได้ทันที ทำให้ทีมงานมีเวลามากขึ้นเพื่อไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่าได้อย่างมหาศาล
ผสมผสาน Duet AI บน Google Workspace งานเสร็จได้เร็วขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
สมมติว่าองค์กรต้องเร่งสร้างแคมเปญการตลาดหรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ขึ้นมาภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หากดำเนินการด้วยวิธีการแบบเดิม ที่ต้องนัดหมายประชุมเพื่อเฟ้นหาไอเดีย ส่งต่อให้อีกทีมออกแบบภาพที่ต้องการสื่อสาร นัดหมายถ่ายทำถ่ายภาพ คิดบทความที่ต้องการเขียนประชาสัมพันธ์ ฯลฯ อาจจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถดำเนินการได้เสร็จทันตามเวลาที่ให้มา
แต่ด้วยขีดความสามารถต่าง ๆ ของ Duet AI บน Google Workspace ทั้งบน Meet ที่สามารถนัดหมายประชุม พูดคุยในภาษาที่ต่างกันได้ทันที ใช้ Slide สร้างภาพผลิตภัณฑ์ได้เหมือนถ่ายในสตูดิโอ ใช้ Docs ช่วยเขียนคำบรรยายแคมเปญโฆษณา ใช้ Gmail ช่วยร่างเมลเพื่อประสานและสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และใช้ AppSheet เพื่อสร้างแอปง่าย ๆ ขึ้นมาสนับสนุนการใช้งาน เชื่อว่าด้วยศักยภาพของ Duet AI บน Google Workspace เหล่านี้จะสามารถสนับสนุนให้องค์กรดำเนินการได้ทันตามกรอบเวลาที่เร่งด่วนได้อย่างไม่น่าเชื่อแน่นอน ซึ่งทั้ง 5 ฟีเจอร์นี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์ Google Workspace
“นี่คือศักยภาพของ Duet AI สำหรับ Google Workspace ที่จะช่วยทำงานทั่ว ๆ ไปให้ เพื่อผู้ใช้จะได้มีเวลาไปทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายประชุม จดบันทึกการประชุม การคิดว่าจะเขียนบทความอย่างไร หรือการเขียนอีเมลขอบคุณ งานเหล่านี้ล้วนใช้เวลาในการดำเนินการทั้งสิ้น” Darryl McKinnon ผู้อำนวยการฝ่าย Google Workspace ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวในงาน Google Cloud SEA AI Media Summit ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา “ก่อนหน้านี้ ฉันใช้เวลาในการเขียนอีเมลราว 3-4 ชั่วโมงต่อวัน แต่หลังจากใช้ Duet AI แล้ว งานเขียนอีเมลเหลือใช้เวลาเพียงแค่ประมาณวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น”
บทส่งท้าย
“Artificial Intelligence is the New Electricity” หรือ “AI คือพลังงานไฟฟ้ารูปแบบใหม่” คำกล่าวโดย Andrew Ng ปรมาจารย์แห่งวงการ AI ที่ได้กล่าวไว้นั้นคงจะไม่เกินความเป็นจริงอย่างแน่นอน และเชื่อได้เลยว่าภายในเวลาไม่ช้านี้ AI จะกลายเป็นสิ่งที่ผู้คน “เข้าถึงได้ทั่วไป” เหมือนกับที่แทบทั้งโลกนั้นมีพลังงานไฟฟ้าใช้กันไปทั่ว เฉกเช่นในทุกวันนี้
และนี่คือ 2 เครื่องมือ Gen AI จากทาง Google Cloud ที่พร้อมสนับสนุนทุกภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมในการทรานสฟอร์มรูปแบบการทำงาน เสริม Productivity ให้สูงขึ้นได้มากกว่าที่ผ่าน ๆ มา ด้วยศักยภาพของ Vertex AI และ Duet AI ที่มีพร้อมช่วยสนับสนุนทั้งฝั่งผู้สร้างและผู้ใช้ จะช่วยเร่งทรานส์ฟอร์มองค์กรให้เป็นไปตามแนวทางการทำงานยุคใหม่ได้เร็วขึ้น ประหยัดต้นทุนมากขึ้น และสามารถสร้างความแตกต่างให้กับองค์กรได้อย่างชัดเจนมากขึ้นแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจต้องการใช้งานระบบ Vertex AI หรือ Duet AI สามารถสมัครเพื่อเข้าไปทดลองใช้งานได้แล้ววันี้ โดยดูรายละเอียดอื่น ๆ ของทั้ง 2 Gen AI จาก Google Cloud เพิ่มเติมได้ที่ https://cloud.google.com/vertex-ai และ https://cloud.google.com/duet-ai
