บริษัทอัลสตอม ซึ่งถือเป็นผู้นำระดับโลกด้านระบบขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืน ได้รับเกียรติให้เป็นส่วนหนึ่งในการทดลองวิ่งให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมเปิดงานทดลองวิ่งให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีชมพู เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการฟรี จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566 จากนั้นจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทอัลสตอมได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (Northern Bangkok Monorail Company Limited) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ในการจัดหาระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลแบบอัตโนมัติ Innovia™ ในปี 2560 นอกจากนี้ อัลสตอมยังเป็นผู้จัดหาระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลแบบอัตโนมัติ Innovia™ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566
· รถไฟฟ้าสายสีชมพูมีจำนวนสถานีทั้งหมด 30 สถานี ระยะทางรวม 34.5 กม. โดยเชื่อมต่อพื้นที่ระหว่างเขตแคราย-มีนบุรี เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งจะลดระยะเวลาในการเดินทางลงได้มากกว่าครึ่ง ทำให้ใช้เวลาเดินทางจริงไม่ถึงชั่วโมง
· รถไฟฟ้าสายสีชมพูสามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟอีก 5 สาย และเพิ่มการเชื่อมต่อไปยังฝั่งทิศเหนือของกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรี
· ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลอัตโนมัติ จะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. และสามารถะรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 470,000 คนต่อวัน

รถไฟสายสีชมพูมีระยะทางยาวกว่า 34.5 กิโลเมตร ประกอบด้วย 30 สถานี ตั้งอยู่ตามแนวถนนแจ้งวัฒนะจนถึงถนนรามอินทรา โดยสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟสายอื่น ๆ อีก 5 สาย เพื่อยกระดับการเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร จากฝั่งตะวันออก ไปยังฝั่งตะวันตก นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพูจะมีการก่อสร้างสถานีเพิ่มเติมอีก 2 สถานีภายในปี 2568 ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนนทบุรีดียิ่งขึ้น
คุณโทบี ไทเบอเกียน (Mr.Toby Tiberghien) กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกของบริษัทอัลสตอม กล่าวว่า “การเปิดตัวรถไฟฟ้าสายสีชมพูถือเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับบริษัทอัลสตอมในประเทศไทย จากที่รถไฟฟ้าโมโนเรลสายที่สองเริ่มเปิดให้บริการนั้นแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญ และโซลูชันการขนส่งทางรางอันล้ำสมัยของเรา อัลสตอมภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และได้เป็นส่วนหนึ่งในการขยายเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร ไปยังพื้นที่จังหวัดนนทบุรีผ่านรถไฟฟ้าสายสีชมพู ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการขนส่งในเมืองที่เชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
บริษัทอัลสตอมซึ่งมีศูนย์กลางทางวิศวกรรมประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการงานออกแบบ ควบรวมระบบ ติดตั้งและทดสอบระบบ อันประกอบไปด้วยระบบอาณัติสัญญาณแบบไร้คนขับ Cityflo™ 650 GOA4, ระบบการสื่อสาร, ระบบจ่ายไฟและรางจ่ายไฟฟ้า, ระบบอุปกรณ์สับราง, ระบบประตูกั้นชานชาลา และอุปกรณ์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า โดยรถไฟฟ้าโมโนเรล Innovia™ ผลิตโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างอัลสตอม และ ซีอาร์อาร์ซี ปู่เซิน (CRRC Puzhen Alstom Transportation Systems Ltd.) ในประเทศจีน
ในปี 2561 บริษัทอัลสตอมได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อโครงการนี้ โดยรับผิดชอบการบำรุงรักษาเป็นระยะเวลา 20 ปี เพื่อให้ความเชื่อมั่นของการดำเนินงานอย่างไร้รอยต่อตั้งแต่การส่งมอบไปจนถึงการบำรุงรักษา สัญญานี้ครอบคลุมการใช้ Healthhub™ ซึ่งเป็นระบบบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ขั้นสูงของอัลสตอมซึ่งคลอบคลุมทั้ง ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรล Innovia™ ระบบอาณัติสัญญาน Cityflo™ และการปฏิบัติงานภายในศูนย์ซ่อมบำรุง เป็นต้น

กลุ่มผลิตภัณฑ์การขนส่งอัตโนมัติเต็มรูปแบบของอัลสตอมถือเป็นโซลูชันที่สามารถตอบสนองกับความท้าทายด้านการขนส่งในกรุงเทพฯ ที่มีความพิเศษกว่าที่อื่น ๆ โดยออกแบบมาเพื่อรองรับเมืองที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและพื้นที่เมืองหนาแน่น ระบบโมโนเรล Innovia™ ยกสูงเหนือพื้นดินและขับเคลื่อนบนรางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการให้บริการเดินรถที่ราบรื่นและไม่กีดขวางการจราจรบนถนนโดยรอบ โซลูชันดังกล่าวมีความโดดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นสูงในการใช้พื้นที่จำกัด ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และรถไฟฟ้าโมโนเรลยังออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางสามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก เสียงรบกวนภายในและการสั่นสะเทือนต่ำ ตลอดจนหน้าต่างบานใหญ่เพื่อสร้างบรรยากาศที่สดใสและประสบการณ์การโดยสารที่สะดวกสบาย
เมื่อเส้นทางสายสีชมพูและสายสีเหลืองเปิดให้บริการแล้ว ประชาชนกว่า 5 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในฝั่งตะวันออกและฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และนนทบุรี จะสามารถเข้าถึงการคมนาคมในเมืองได้อย่างยั่งยืน และลดเวลาการเดินทางลงได้ถึง 50%
ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันระบบรางชั้นนำระดับโลกแบบครบวงจรที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปี โดยมีรถไฟ 95 สายที่ให้บริการเชิงพาณิชย์ทั่วโลกในปัจจุบัน ทำให้บริษัทอัลสตอมมีความน่าเชื่อถือในด้านระบบรางแบบเบ็ดเสร็จที่สามารถสนองทุกความต้องการด้านการคมนาคม
Alstom™,Innovia™, Cityflo™, Urbalis Flo™ และ Healthhub™ เป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการคุ้มครองของกลุ่มบริษัทอัลสตอม
เกี่ยวกับบริษัทอัลสตอม ในประเทศไทย
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทอัลสตอมเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศไทย โดยมีพนักงานที่มีทักษะสูงมากกว่า 1,000 คน โดยเป็นผู้ดำเนินการโครงการด้านการขนส่งระบบรางทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก สำนักงานที่กรุงเทพมหานครยังเป็นฐานของศูนย์กลางทางวิศวกรรมระดับโลกแห่งหนึ่งจากทั้งสองแห่งของอัลสตอมในเอเชียแปซิฟิกที่ให้บริการทั้งโครงการในประเทศ และต่างประเทศในด้านวิศวกรรมระบบรางดิจิทัลสำหรับระบบขนส่งมวลชนในเมืองและระหว่างเมือง อัลสตอมเป็นผู้บุกเบิกในการพัฒนา และนำโซลูชั่นการขนส่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่มาสู่ประเทศไทย รวมถึงระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลไร้คนขับสองสายแรกของกรุงเทพมหานคร และระบบเคลื่อนย้ายคนอัตโนมัติ (APM) สายแรกในรถไฟฟ้าสายสีทอง รวมถึงระบบอาณัติสัญญาณสำหรับระบบขนส่งมวลชนในเมือง และระหว่างเมือง
เกี่ยวกับAlstom
Alstom เป็นผู้นำสังคมสู่อนาคตแห่งคาร์บอนต่ำ พัฒนาและวางแผนการตลาดโซลูชันระบบขนส่ง ซึ่งเป็นรากฐานอันยั่งยืนสำหรับอนาคตของการคมนาคมขนส่ง ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง รถไฟใต้ดิน โมโนเรล รถราง ไปจนถึงระบบการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ บริการ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบอาณัติสัญญาณ และระบบการขนส่งแบบดิจิทัล อัลสตอมมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เลือกสรรที่มากที่สุดในอุตสาหกรรมระบบราง ด้วยการดำเนินธุรกิจใน 63 ประเทศและมีพนักงานที่มีความสามารถมากกว่า 80,000 คนจาก 175 สัญชาติทั่วโลก บริษัทจึงมุ่งเน้นด้านการออกแบบ นวัตกรรม และทักษะการบริหารจัดการโครงการไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการโซลูชันการขนส่งมากที่สุด อัลสตอมจดทะเบียนในประเทศฝรั่งเศส มีรายได้ 16.5 พันล้านยูโรในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.alstom.com