Samsung เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟน Midrange รุ่นใหม่ Galaxy A55 5G และ A35 5G ไปสดๆร้อนๆ ทั้ง 2 รุ่นนั้นมาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนใหม่ในปีนี้
3 ฟีเจอร์ความปลอดภัยแบบจัดเต็มใน A55 และ A35
1. Samsung Knox Vault
Knox Vault นั้นเป็นฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยของ Samsung ที่ดูแลตั้งแต่ระดับฮาร์ดแวร์ ในการใช้ Knox Vault ข้อมูลต่างๆจะถูกเข้ารหัส จัดเก็บ และประมวลแยกในฮาร์ดแวร์อีกส่วนที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาที่สุด ไม่สามารถเจาะข้อมูลได้ โดยหากโทรศัพท์หายหรือถูกขโมยข้อมูลสำคัญที่เก็บใน Knox Vault ก็จะไม่หลุดรั่วออกไป
ความน่าสนใจคือปกติ Knox Vault นั้นจะเป็นฟีเจอร์ที่มากับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงเท่านั้น แต่ในวันนี้ Samsung ได้นำมาใส่ในรุ่น A55 และ A35 ด้วย รวมไปถึงความสามารถของแพลตฟอร์ม Knox ที่ช่วยปกป้องข้อมูลและตรวจจับการโจมตีอย่างทันท่วงที ทำให้ A55 5G และ A35 5G เป็นโทรศัพท์ Midrange ที่มีระดับการรักษาความปลอดภัยที่สูงมาก
2. Auto Blocker
Auto Blocker เป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เปิดใช้งานได้ใน A55 5G และ A35 5G ซึ่งจะทำหน้าที่ในการป้องกันการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบความปลอดภัยของแอป และสแกนหาแอปที่อาจเป็นอันตรายกับเครื่อง ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ในไทยที่ประสบปัญหามิจฉาชีพระบาดอยู่ในปัจจุบัน
3. รองรับการอัพเดท One UI 4 รุ่น และอัพเดทแพตช์ความปลอดภัย 5 ปี
เทรนด์การเปิดให้โทรศัพท์อัพเดทด้านความปลอดภัยได้ยาวนานนั้นมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยใน A55 และ A35 นี้ Samsung การันตีอัพเดทแพตช์ความปลอดภัยให้ถึง 5 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะใช้สมาร์ทโฟนนานๆ เพราะช่องโหว่ในระบบนั้นถูกตรวจพบอยู่เรื่อยๆ ประกอบกับการโจมตีรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน การอัพเดทด้านความปลอดภัยจึงสำคัญมาก ทั้งในแง่ของการปกป้องความปลอดภัยของตัวเองและการทำงานร่วมกับแอปต่างๆที่อาจมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
นอกจากนี้ A55 5G และ A35 5G ยังได้รับฟีเจอร์แดชบอร์ดด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นเมนูที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปตรวจสอบ ควบคุม และจัดการความปลอดภัยในการใช้งานได้อย่างสะดวก ปิดการเข้าถึงข้อมูลของแอปที่ไม่น่าไว้ใจอย่างรวดเร็ว
อ่านรายละเอียดเต็มๆเกี่ยวกับ Galaxy A55 5G และ A35 5G รวมไปถึงฟีเจอร์ด้านอื่นๆได้ที่นี่