[สรุป Session] อัปเดตเทรนด์ตลาดงาน IT 2024 โดย JobPrompt

0

ปี 2024 เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับธุรกิจและพนักงาน โดยเฉพาะสายงาน IT เมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ทั้งผู้ประกอบการและพนักงานจึงต้องเร่งปรับตัวตามเทรนด์และนวัตกรรมใหม่ ๆ เหล่านี้อยู่เสมอเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจ

ในงาน TechTalkThai Virtual Summit | Enterprise AI & Tech 2024 คุณปาริชาติ ธารีรัชต์ Sales Executive Manager จากบริษัท JobPrompt ได้มาแชร์อัปเดตเรื่องเทรนด์ตลาดแรงงาน IT 2024 และทักษะสำคัญที่คนทำงาน IT ต้องพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน ในหัวข้อ “เทรนด์ คนหางาน งานหาคน สาย IT ปี 2024”

เทรนด์ตลาดแรงงาน IT 2024 มีทิศทางอย่างไร? ตำแหน่งงาน IT ใดบ้างที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด? รูปแบบการจ้างงานแบบไหนที่ดึงดูดให้พนักงานอยากร่วมงานด้วย? และพนักงานควรต้องพัฒนาทักษะอะไรเพื่อสร้างให้ตนเองเป็นพนักงานที่หลาย ๆ องค์กรต้องการตัว?

เตรียมตัวให้พร้อม! สำหรับตลาดแรงงาน IT 2024 ไปพร้อมกันได้ในบทความนี้ค่ะ

เทรนด์ตลาดแรงงาน IT 2024

JobPrompt คาดการณ์ว่า ตลาด IT จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยธุรกิจปัจจุบันนี้ต่างให้ความสำคัญกับระบบ IT มากขึ้น ทั้งการวางระบบ ปรับปรุงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการสร้างข้อได้เปรียบการแข่งขันทางธุรกิจ

ด้านการจ้างงานสาย IT นั้น องค์กรต่างก็มุ่งเน้นสรรหาบุคลากรด้าน IT ที่มีความเชี่ยวชาญและมีคุณภาพ พร้อมปรับตัวให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาและมีทักษะการสื่อสารที่ดีเพื่อการทำงานเป็นทีม

5 ตำแหน่งงาน IT ยอดนิยม

จากข้อมูลของ JobPrompt ได้เผยตำแหน่งงานสาย IT ที่มีผู้สนใจสมัครมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. Software Engineer

ตำแหน่ง Software Engineer เป็นตำแหน่งงานสาย IT ที่มีบทบาทในการพัฒนาแอปพลิเคชันและโปรแกรมขององค์กร รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในองค์กร เพื่อให้องค์กรมีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีให้เท่าทันและมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น

2. Cloud Engineer

ตำแหน่ง Cloud Engineer มีบทบาทในการช่วยองค์กรนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้งาน เพื่อเพิ่มความเร็ว ลดระยะเวลาการทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย และรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่อยู่บนคลาวด์ ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มการเปิดรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจมากขึ้น

3. Data Scientist

ตำแหน่ง Data Scientist มีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล โดยต้องมีความสามารถในการคาดการณ์แนวโน้มเพื่อการแก้ไขปัญหาธุรกิจ รวมถึงมองหา Insight จากข้อมูลที่มีอยู่ โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือทางสถิติเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลร่วมด้วย อีกทั้งยังต้องเข้าใจและศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ

ดังนั้น Data Scientist จึงมีบทบาทสำคัญในองค์กร เพื่อให้ธุรกิจนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและขับเคลื่อนธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น

4. Cybersecurity

ตำแหน่ง Cybersecurity มีหน้าที่ดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบข้อมูลองค์กรในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลและการโจมตีบุกรุกจากภายนอก ซึ่งต้องมีการรับมือป้องกันด้วยการอัปเดตข้อมูลให้เท่าทันแฮกเกอร์อยู่ตลอดเวลา 

ดังนั้น Cyversecurity จึงเป็นตำแหน่งสำคัญที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ตลอดจนการสร้างความมั่นคงปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยีภายในองค์กรมากขึ้น

5. DevOps Engineer

ตำแหน่ง DevOps Engineer มีหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูล ปรับปรุงกระบวนการพัฒนาและดูแลระบบ ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาและทีมดูแล เพื่อให้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นได้รับการทดสอบและให้บริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ DevOps Engineer ยังมีบทบาทในการทำ Automation เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และลดเวลาการพัฒนาและการดูแลลระบบให้น้อยลง

ดังนั้น DevOps Engineer จึงเป็นอีกตำแหน่งสำคัญที่ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาการให้บริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

JobPrompt’s Tip

5 ตำแหน่งสาย IT ที่ระบุข้างต้นนี้เป็นตำแหน่งที่มีผู้สนใจสมัครงานมากที่สุด และองค์กรก็ต้องการตัวมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน สําหรับท่านใดที่ต้องการสมัครงานตำแหน่งดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หรือหาคอร์สเรียนเสริมความรู้ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้พร้อมสําหรับตําแหน่งงานเหล่านี้

เทรนด์รูปแบบการจ้างงาน

คีย์เวิร์ดมาแรงของการทำงานในยุคนี้คงหนีไม่พ้นคำว่า “Flexible” ซึ่งความยืดหยุ่นของการทำงานในองค์กรนั้นมีหลายมิติด้วยกัน ดังต่อไปนี้

1. Remote Work

Remote Work คือ การทำงานจากที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศประจำแบบเมื่อก่อน ซึ่งเทรนด์การทำงานแบบ Remote Work นั้นได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงโควิด แม้ว่าหลังจากผ่านพ้นช่วงโควิดไปแล้ว กลับกลายเป็นว่า หลาย ๆ องค์กรมีแนวโน้มรับนำแนวคิดการทำงานแบบ Remote Work มาใช้กับบริษัทมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากตำแหน่งงาน IT ที่กระจายทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศอยู่ทั่วทุกมุมโลก

ข้อดีของการทำงานแบบ Remote Work มอบความยืดหยุ่นในการทำงานให้กับพนักงาน ทั้งเรื่องสถานที่และเวลาการทำงาน อีกทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทางของพนักงาน สร้าง Work-life Balance ให้กับพนักงานได้ดีขึ้น

ทว่า Remote Work อาจมีข้อจำกัดในเรื่องการสื่อสารทำงานเป็นทีม ไม่ราบรื่นเท่าการนั่งทำงานในออฟฟิศเดียวกัน เมื่อมีพนักงานใหม่เข้ามาก็อาจจะขาดโอกาสทำความรู้จักคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนสภาพจิตใจของพนักงานที่ไม่ได้พบเจอกับเพื่อนร่วมงาน องค์กรจึงควรมองหาโซลูชันการสื่อสารเพื่อให้การทำงานแบบ Remote Work ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2. Gig Economy

Gig Economy คือ ระบบเศรษฐกิจตลาดแรงงานแบบเสรี ในลักษณะการจ้างงานแบบครั้งคราว จ้างตามระยะเวลา หรือตามแต่ละโครงการ ซึ่งมีความยืดหยุ่นสำหรับองค์กรที่ต้องการจ้างฟรีแลนซ์ที่มีทักษะเฉพาะทางสำหรับแต่ละโปรเจกต์มาทำงานตามกำหนดสัญญา ฝั่งพนักงานประจำก็มีสิทธิเลือกรับงานหลาย ๆ งานเป็น Contract ได้เช่นกัน

เทรนด์การจ้างงานฝั่งตลาด IT ก็สอดรับกับเทรนด์ Gig Economy โดยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยความยืดหยุ่นในการเลือกรับงาน เวลาและสถานที่ พนักงานที่รับงานหลายโปรเจกต์ก็สามารถพัฒนาทักษะและมีโอกาสร่วมงานกับทีมที่หลากหลาย 

แต่การรับทำงานแบบฟรีแลนซ์ก็แลกมากับความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้และโอกาสของงานที่เข้ามา รวมถึงการขาดสวัสดิการที่จะได้รับเฉพาะพนักงานประจำ อีกทั้งความเสี่ยงจากการถูกโกงจากผู้จ้างงาน และการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้น คนทำงานสาย IT จึงต้องหมั่นพัฒนาทักษะให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อให้โดดเด่นจากคู่แข่งในตลาดแรงงาน

3. Flexible Benefit

ปัจจุบัน หลาย ๆ องค์กรมีสวัสดิการที่ยืดหยุ่นตอบรับแนวโน้มความหลากหลายของพนักงานในองค์กร เช่น สวัสดิการด้านสุขภาพอาจถูกนำไปเปลี่ยนสวัสดิการด้านการพัฒนาตนเองสำหรับพนักงานที่สุขภาพแข็งแรง หรืออีกกรณีคือ สำหรับพนักงานที่มีสถานภาพโสด สามารถเปลี่ยนสวัสดิการการดูแลสุขภาพคู่สมรสเป็นสวัสดิการดูแลสุขภาพของพ่อแม่แทน

ดังนั้น สิทธิ์ในการเลือกใช้สวัสดิการตามความเหมาะสมกับความต้องการ พฤติกรรม และช่วงวัยของพนักงาน จึงมอบความยืดหยุ่นและความเท่าเทียมให้กับพนักงานที่มีความหลากหลายในยุคนี้

4. Diversity

สมัยนี้องค์กรเปิดรับพนักงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งเพศสภาพ วัฒนธรรมความเชื่อ ทัศนคติ พื้นหลังของแต่ละบุคคล ซึ่งการเปิดรับความหลากหลายมากขึ้นก็ทำให้องค์กรมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน 

องค์กรที่มีพนักงานที่มีความหลากหลายมีโอกาสมองเห็นปัญหาและรับรู้แนวทางการแก้ไขจากหลากหลายมุมมอง หลีกเลี่ยงการเกิด Group Thinking หรือการคิดแบบเหมารวมจากคนกลุ่มเดียว อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทำให้คนอยากมาร่วมงานด้วย

ทั้งนี้ องค์กรอาจเผชิญความท้าทายในการสื่อสารภายใน รวมถึงวัฒนธรรมองค์กรที่อาจต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการของพนักงานที่มีความหลากหลายในองค์กร ณ ขณะนั้นด้วย

3 ทักษะต้องพัฒนา

JobPrompt ได้คัดเลือกทักษะที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน IT โดยแบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่

1. Technical Skills

  • Programming languages
  • Cloud
  • Data Science
  • Cybersecurity
  • AI & Machine Learning
  • Agile Development

2. Soft Skills

  • Communication – การสื่อสารร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  • Collaboration – การทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้งานสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย
  • Problem Solving – การแก้ปัญหา เข้าใจ วิเคราะห์ และหาทางออกของปัญหา
  • Critical Thinking – การคิดเชิงวิพากษ์ คิดวิเคราะห์เป็นระบบบนข้อมูลข้อเท็จจริง
  • Creativity – ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ
  • Adaptability – ความสามารถในการปรับตัว เท่าทันการเปลี่ยนแปลง

3. Other Skills

  • Business Acumen – ความเฉียบคมทางธุรกิจ รู้จุดแข็งองค์กร เข้าใจทิศทางธุรกิจ
  • Customer Focus – เน้นลูกค้าเป็นสำคัญ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอย่างเหมาะสม
  • Leadership – ทักษะความเป็นผู้นำ รู้จักการเป็นผู้ตามที่ดี
  • Project Management – ทักษะการวางแผนการดำเนินงาน เพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์

บทสรุป

เทรนด์ตลาดการจ้างงาน IT ในปี 2024 มีแนวโน้มการให้ความสำคัญกับการทำงานแบบ Remote work เพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการทำงาน ตำแหน่งงาน IT ที่องค์กรต้องการนั้นล้วนเป็นตำแหน่งที่ต้องการทักษะ IT เฉพาะทาง เช่น Data, Cloud, Cybersecurity 

นอกจากความรู้เฉพาะทางแล้ว พนักงานจำเป็นต้องมีทักษะ Soft skills ร่วมด้วย เพื่อให้องค์กรสร้างบริษัทที่แข็งแกร่ง พร้อมสร้างสุขภาวะที่ดี เพื่อให้พนักงานสามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

รู้จัก JobPrompt พร้อม! สำหรับงานที่ใช่

JobPrompt เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านการสรรหาบุคลากร โดยเฉพาะตำแหน่งงานสาย IT ดำเนินงานโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้าน Recruitment และ IT มากกว่า 10 ปี

JobPrompt มีบริการสรรหาบุคลากร 2 รูปแบบด้วยกัน คือ

  1. Headhunter – บริการสรรหาบุคลากรให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
  2. Outsourcing – บริการสรรหาบุคลากรให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งดูแลเรื่องการจ่ายเงินเดือนและสวัสดิการ

สนใจติดต่อ JobPrompt ได้ทุกช่องทาง

รับชมวิดีโอบันทึกการบรรยายหัวข้อ เทรนด์ คนหางาน งานหาคน สาย IT ปี 2024 โดยคุณปาริชาติ ธารีรัชต์ Sales Executive Manager จากบริษัท JobPrompt จากงาน TECHTALKTHAI VIERUAL SUMMIT | ENTERPRISE AI & TECH 2024 ได้ที่นี่