ในการแถลงผลประกอบการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา Microsoft ได้เผยตัวเลขที่น่าตกใจว่าพวกเขามีรายจ่ายการลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 79% จากปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการของธุรกิจในการใช้งาน AI ทว่า Amy Hood – CFO ของไมโครซอฟท์ยอมรับว่าดีมานด์ที่มีเข้ามานั้นยังคงมากเกินกว่าที่ไมโครซอฟท์จะรองรับได้
Microsoft เผยงบการเงินในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณเมื่อวานนี้ โดยมีรายจ่ายการลงทุน (CapEx) กว่า 14,000 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 79% ของปีก่อนหน้า และนับเป็นรายจ่ายที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 2016 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้งาน AI และการให้บริการต่างๆของไมโครซอฟท์ ทว่าไมโครซอฟท์เองก็ยอมรับว่า Infrastructure และกำลังการประมวลผลของพวกเขานั้นยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ในช่วงเวลาเดียวกัน ไมโครซอฟท์มีรายได้เพิ่มขึ้น 17% ซึ่งนับว่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับรายจ่าย โดย Microsoft Azure สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 31% ซึ่ง 7% ในจำนวนนั้นเป็นผลมาจาก AI
Amy Hood คาดว่าการขาดแคลนความสามารถในการรองรับและกำลังประมวลผลนั้นส่งผลต่อผลประกอบการที่เกี่ยวข้องกับ AI และคาดว่ารายจ่ายการลงทุนจะเพิ่มขึ้นอีกมากสำหรับ Cloud Infrastructure ทั้งในไตรมาสปัจจุบันและปีงบประมาณใหม่ โดย Microsoft วางแผนที่จะขยายระบบให้สามารถรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์และ AI ได้มากขึ้น
หนึ่งในรายจ่ายที่ไมโครซอฟท์ได้ใช้ในการทุ่มงบในครั้งนี้ คือการซื้อ GPU จาก NVIDIA เพื่อมาใช้ในการพัฒนาและให้บริการ AI ซึ่ง NVIDIA เองแม้จะมีผลประกอบการพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ก็ประสบปัญหาในการรองรับความต้องการที่พุ่งทะลุเพดานเช่นกัน
ที่มา: Microsoft says cloud AI demand is exceeding supply even after 79% surge in capital spending
Cover Photo: Matthew Manuel