DJI ผู้ผลิตโดรนรุกตลาดโดรนเพื่อการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันขายได้มากกว่า 300,000 หน่วย ทำรายได้เป็นอันดับสองของบริษัทรองจากธุรกิจโดรนถ่ายภาพทั่วไป
การสำรวจโดย QY Research ของประเทศจีนเผย DJI ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำตลาดโดรนสำหรับการเกษตรด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 30% ทิ้งห่างอันดับสองอย่าง Yamaha Motor ที่อยู่ที่ 11% โดยคาดการณ์ว่าตลาดโดรนเพื่อการเกษตรทั่วโลกจะเติบโตจาก 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้เป็นสูงถึง 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2030
DJI ช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดไปด้วยราคาที่น่าคบหาอยู่ที่ราว 50,000 หยวน (ประมาณ 240,000 บาท) ซึ่งมีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรุ่นใกล้เคียงกันของยี่ห้ออื่น จึงได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับงานฉีดพ่นยาฆ่าแมลงในประเทศจีนในกลุ่มเกษตรกรในวัย 30-50 ปี โดยโดรน DJI นั้นมีใช้งานถึง 1 ใน 3 ของพื้นที่เพาะปลูกในจีนในฟาร์มขนาดใหญ่ ช่วยให้ทำงานพ่นยาฆ่าแมลงและใส่ปุ๋ยเสร็จเร็วขึ้นอย่างมาก
โดยในประเทศจีน DJI ได้จัดตั้งโครงการเพื่อสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ และมีผู้ฝึกสอนราว 6,000 รายที่สามารถสอนพนักงานในร้านค้าให้กลายเป็นผู้สอนที่มีใบรับรองได้ อีกทั้งยังมีศูนย์ซ่อมกว่า 1,100 แห่งที่สามารถแก้ไขปัญหา 95% ได้ภายใน 6 ชั่วโมง
นอกจากในประเทศจีน โดรนการเกษตรของ DJI ก็ยังมียอดขายในทวีปอเมริกา ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทวีปออสเตรเลียสำหรับทุ่งที่ใช้ในงานปศุสัตว์ รวมถึงญี่ปุ่น ในขณะที่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปนั้นยังมีปัญหาเนื่องจากสภาวะความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ
DJI เริ่มธุรกิจโดรนเพื่อการเกษตรในปี 2015 และในปี 2022 ธุรกิจนี้ก็ได้เติบโตจนกระทั่งเป็นหน่วยธุรกิจที่ทำรายได้ให้กับบริษัทอันดับสอง และโดรนรุ่นล่าสุดของ DJI นั้นมีความสามารถในการฉีดพ่น (Spray) ในพื้นที่ลาดชันได้ดีขึ้น โดยหวังว่าจะดึงดูดให้มีเกษตรกรนำไปใช้งานในสวนผลไม้และไร่ชาในประเทศญี่ปุ่นที่มีภูมิประเทศเทือกเขาได้มากขึ้น
ที่มา: China’s DJI taps young farmers to cultivate drone market
Photo: DJI