การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในอดีตอาจเป็นเพียงสิ่งที่เป็นไปได้ในบริษัทใหญ่ๆที่พร้อมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญและเงินลงทุน ทว่านั่นก็เป็นเพียงเรื่องราวของอดีตเท่านั้น เมื่อในปัจจุบันมีโซลูชันและระบบต่างๆให้ได้ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ มีทีม AI โดยเฉพาะหรือไม่ เช่นในกรณีของ Gallery Furniture ร้านเฟอร์นิเจอร์ในรัฐเท็กซัสที่นำเครื่องมือการตลาดพลัง AI มาใช้ที่เรายกมาเป็นตัวอย่างในวันนี้
ตลอดการเปิดให้บริการมา 36 ปีของ Gallery Furniture นั้น ทางร้านได้มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือแม้กระทั่งช่องทางดิจิทัลอย่าง Facebook ในช่วง 8 ถึง 10 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่ง Jim McIngvale หรือที่รู้จักกันในนาม Mattress Mack ได้เกิดความสนใจในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หลังจากที่ได้อ่านกรณีศึกษาการใช้ AI ของ Harley Davidson ที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับทางแบรนด์ได้เกือบ 2 เท่าในช่วงสุดสัปดาห์
ความสนใจนี้ของจิมถูกส่งต่อไปยัง เจมส์ บุตรชายของเขาผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปศึกษาซอฟต์แวร์ Albert แพลตฟอร์มการตลาดที่ใช้เทคนิคปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ทำนายเหตุการณ์ (predictive analytics), machine learning, และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ บูรณาการกันทำให้เกิดระบบที่สามารถสร้าง เรียกใช้ ทดสอบ และปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดได้อย่างชาญฉลาด
เจมส์ตัดสินใจเริ่มทดลองใช้แพลตฟอร์ม Albert นี้ในเดือนกรกฎาคม และหลังจากขั้นตอนการติดตั้งที่ดูยุ่งเหยิงสำหรับมือใหม่ Gallery Furniture ก็ได้สร้างแคมเปญที่มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่การเรียกคนเข้ามาชมเว็บไซต์ของทางร้าน และกรอกอีเมล์เพื่อรับคูปองส่วนลด $100 เพื่อที่พวกเขาจะสามารถตรวจสอบได้ว่าการเข้ามาชมเว็บไซต์นั้นจูงใจให้ผู้คนเข้ามาเป็นลูกค้าของร้านได้จริงๆ ซึ่งในครั้งนี้ Albert รับหน้าที่ทั้งการออกแบบแคมเปญ ซื้อโฆษณา ทดสอบ ปรับแก้ และวิเคราะห์ผลลัพธ์
สิ้นเดือนสิงหาคม Gallery Furniture พบว่าพวกเขามียอดขายเพิ่มขึ้น 22% โดย ROI ของการโฆษณาใน Facebook เพิ่มขึ้นกว่า 394% จาก $4.8 ต่อโฆษณาทุกๆ $1 เป็น $23.75 ซึ่งนอกจากนั้นแล้ว พวกเขายังมีการเติบโตของ leads ที่เพิ่มสูงถึง 6897% และ conversion ที่ขยายตัวถึง 4710% อีกด้วย
สำหรับ Jim McIngvale แล้ว นี่เป็นสัญญาณที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
“AI มอบโอกาสในการแข่งขันกับรายใหญ่ให้กับคุณ ให้คุณมีลูกค้าเพิ่มได้โดยไม่ต้องควักกระเป๋าจ่าย $40,000 ให้กับ[การโฆษณาใน]เกม NFL … มันช่วยให้คุณเล็งกลุ่มเป้าหมายได้ ในทะเลสาบขนาด 1000 ไมล์ คุณสามารถตกปลาในระยะ 1 ไมล์ที่มีปลาอยู่เยอะ”
Albert นั้นเป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่จะคอยออกแบบ ตรวจสอบ และปรับแก้คำโฆษณา คำค้นหา โปรโมชั่น หรือแม้กระทั่งข้อความและสีบนหน้าเว็บไซต์ หน้า social media หรืออีเมล์ที่ส่งไปยังลูกค้าโดยอัตโนมัติ มันทำงานได้อย่างทรงประสิทธิภาพและทำงานได้มากกว่าพนักงานมนุษย์คนไหนๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองเสียทีเดียว
Gallery Furniture เองนั้นก็มีทีมงานดิจิทัลขนาด 20-30 คนที่คอยปรับแก้ข้อมูลที่พวกเขาส่งให้ Albert อยู่เสมอ เช่น ช่องทางในการสื่อสาร เป้าหมายของแคมเปญ รวมไปถึงการเปลี่ยน KPI ของแคมเปญ การเปลี่ยนงบ หรือช่วงเวลาของการดำเนินแคมเปญ เป็นต้น
ขั้นตอนในการทำงานเช่นนี้สะท้อนให้เห็นการทำงานร่วมกันของมนุษย์และ AI ที่จะขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปไม่ได้ที่ Jim McIngvale ถึงกับให้ความเห็นว่าการใช้ซอฟต์แวร์ AI นี้ช่วย”สร้างงาน”เพิ่มในตำแหน่งที่ทางร้านไม่เคยมีมาก่อน
McIngvale ประมาณค่าว่าในแต่ละเดือนนั้น Gallery Furniture ลงทุนกับการโฆษณาให้กับร้านทั้ง 3 สาขาอยู่ที่เดือนละราวๆ 10 ล้านดอลล่าร์ และการใช้ซอฟต์แวร์ AI เข้ามาช่วยทำการตลาดนี้จะช่วยให้พวกเขาสามารถใช้เงินได้ตรงจุดในการดึงดูดผู้คนที่จะเข้ามาใช้จ่ายจริงภายในร้าน
“ถ้าคุณตั้งเป้าหมายไปที่คนผิดกลุ่ม ก็รังแต่จะสร้างความหงุดหงิดใจให้กับทั้งลูกค้าและพนักงานขาย แต่เจ้า[AI]นี่จับคู่ลูกค้าที่ถูกต้องกับสินค้าที่พวกเขาต้องการ” McIngvale กล่าว