ไม่ว่าจะเป็นข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านที่บริษัท Botnik Studios ได้เผยโปสเตอร์ที่เลียนแบบงานเทศกาล Coachella ซึ่งสร้างจากการใช้โครงข่ายประสาทเทียมแบบย้อนกลับ (Recurrent Neural Network) ได้สำเร็จ หรือกรณีที่นักวิจัยจาก Microsoft เผยว่าสามารถสร้าง AI ที่วาดรูปจากคำบรรยายใต้ภาพได้ สิ่งเหล่านี้ถือว่า AI มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลปะโดยแท้จริงหรือไม่
ทาง Botnik ได้หยิบยกประเด็นคำถามเกี่ยวกับการใช้ AI ในการสร้างสรรค์งานศิลปะกับความหมายของการสร้างสรรค์ออกมา แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่
AI ที่สามารถทำปรับสไตล์ของภาพ (Style Transfer) ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากบริษัทต่างๆ ทั้ง Facebook, Google, Prisma, Algorithmia นั้นน่าจะเป็นตัวที่โน้มน้าวให้กับศิลปินรู้สึกได้ว่า AI อาจจะกำลังแย่งงานของพวกเขาไปได้ ซึ่งยิ่งไปกว่านั้นคือ AI ยังทำให้เรื่องสร้างสรรค์ศิลปะกลายเป็น framework และทำให้เริ่มมีตัวตนจับต้องได้อีกด้วย
คุณ Cynthia Hua ได้ยกตัวอย่างภาพหนึ่งที่มูลนิธิ Gray Area Foundation ซึ่งเป็นภาพที่ถูกสร้างโดยโครงการ DeepDream ของ Google ซึ่งโมเดลคอมพิวเตอร์ AI ที่ฝึกฝนจากข้อมูลหลายพันภาพจากหลายคนและหลายจินตนาการผสมกัน จึงทำให้ AI นี้สามารถสร้างจินตภาพ และภาพวิวทิวทัศน์ได้

บางคนอาจใช้ AI ในการเลียนแบบสไตล์การวาดภาพของศิลปิน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการเรียนรู้ของเครื่องสามารถที่จะพัฒนาไปได้เรื่อยๆ อยู่ในขณะนี้ ยิ่งนับวันยิ่งเก่งขึ้น ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจมีสักวันหนึ่งที่เลียนแบบความสามารถในการสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้จริงๆ
แต่ผลงานของคุณ Hua และทีมอย่างเช่น NIPS for Creativity หรือ Machine Learning for Art (ML4A) แสดงให้เห็นถึงการใช้โครงข่ายประสาทเทียมในงานศิลปะไม่ได้หมายความถึงจุดจบของการสร้างสรรค์ของมนุษยชาติ เพราะผลงานศิลปะจาก AI และมนุษย์แต่ละชิ้นงานนั้นมีความ unique พิเศษที่แตกต่างกันไป หากแต่ทำให้เกิดการเพิ่มพูนให้คนมีความพยายามมากกว่าเดิมได้