การ Audit เพื่อตรวจสอบการทำทุจริตที่เกิดขึ้นในธุรกิจนั้นถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ใช้ทั้งเวลาและทรัพยากรจำนวนมากขององค์กรมาโดยตลอด แต่อนาคตเหตุการณ์เหล่านี้จะดีขึ้นด้วยการมาของเทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือ AI แล้ว
จากการประมาณของ Association of Certified Fraud Examiners นั้นระบุว่าองค์กรทั่วๆ ไปนั้นอาจสูญเสียรายรับในแต่ละปีไปถึง 5% กับเหตุการณ์ทุจริตที่เกิดขึ้นภายในองค์กร การตรวจสอบพฤติกรรมทุจริตเหล่านี้ให้ได้อย่างรวดเร็วและด้วยต้นทุนที่ต่ำนั้นจึงกลายเป็นประเด็นหนึ่งที่สามารถเข้ามาช่วยเหล่าธุรกิจได้เป็นอย่างดี และ AI เองก็มีคุณสมบัติที่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้
Macro Schreyer นักวิจัยจาก Deep Learning Competence Center แห่ง German Research Center for Artificial Intelligence ได้ออกมาเผยถึงงานวิจัยของตนที่ใช้ AI ในการตรวจจับพฤติกรรมทางบัญชีและการเงินที่ผิดปกติหรือ Anomaly Detection และ Unsupervised Deep Learning และ Accounting เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง
งานวิจัยชิ้นนี้อาศัยการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ Enterprise Resource Planning หรือ ERP เพื่อเรียนรู้ Pattern การทำธุรกรรมต่างๆ ในยามปกติที่ไม่เกิดทุจริตใดๆ ขึ้น โดยสมมติฐานของงานวิจัยชิ้นนี้เชื่อว่าพฤติกรรมทุจริตนั้นจะมีรูปแบบที่ต่างจากการป้อนข้อมูลธุรกรรมตามปกติ ดังนั้นหากให้ AI ทำการเรียนรู้และเข้าใจ Pattern ในยามที่ระบบทำงานปกติถูกต้องทุกอย่าง เมื่อเกิดเหตุทุจริตขึ้นก็ย่อมจะต้องมีสัญญาณให้จับได้อย่างแน่นอน
ผลการทดสอบระบบนี้ด้วยการ Train ระบบ Deep Learning โดยใช้ข้อมูลบัญชีจริงที่เกิดขึ้นในธุรกิจ พบว่าผลลัพธ์สามารถจำแนก Input ของข้อมูลที่เชื่อว่าเป็นเหตุทุจริตได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ที่ทำงานด้าน Audit สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแนวคิดเดียวกันนี้ก็อาจนำไปประยุกต์ใช้ในแง่มุมอื่นๆ ของธุรกิจได้อีกมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงการเงินเท่านั้น
อ้างอิง: https://blogs.nvidia.com/blog/2018/04/16/finding-fraud/