สำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์กำลังทำให้ข้อมูล 1,500 รายงาน และอีก 30 ล้านหน้ากระดาษจากคดีที่เก็บแช่แข็งไว้กลายมาเป็นข้อมูลดิจิทัล ซึ่งตอนนี้มีเพียง 15% ที่ทำให้กลายเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แล้ว (ตำรวจดัตช์กำหนดว่ากรณีแช่แข็งคือคดีตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 ที่ตัดสินโทษจำคุกตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และยังแก้ไขไม่ได้เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี) และเมื่อดำเนินการสำเร็จ ระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) จะเริ่มทำงานโดยการรวมข้อมูลต่างๆ และตัดสินว่าคดีใดคือคดีที่มีหลักฐานที่มีแนวโน้มมากที่สุด เพื่อลดเวลาในการประมวลผลจำนวนคดีจากที่ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ให้เหลือเพียงแค่ 1 วัน
“พวกเรากำลังฝึกสอนระบบการเรียนรู้ของเครื่องในการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ (forensic screening)” คุณ Jeroen Hammer หนึ่งในนักสถาปัตยกรรม (architect) ของระบบกล่าว “เป้าหมายคือระบบ AI ที่สามารถอ่านคดีแช่แข็งที่พวกเรากำลังทำให้กลายเป็นข้อมูลดิจิทัล และตัดสินว่าอันใดมีข้อมูลเพียงพอที่จะนำไปสู่การแก้ไขคดีความของเคสนั้นๆ ได้”
ระบบ AI จะจัดลำดับคดีโดยใช้ “ค่าความสามารถในการแก้ไข (solvability)” และหลักฐาน DNA ที่เป็นไปได้สูงสุด โดยทีมมีแผนที่จะขยายขีดความสามารถในการทำให้สามารถวิเคราะห์ได้อย่างอัตโนมัติบนรูปแบบอื่นๆ สำหรับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และอาจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่นข้อมูล social และข้อมูลจากพยาน
ในอนาคต คุณ Hammer ยังหวังว่าจะสามารถสร้างเป็น API ที่จะให้พาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่ต้องการทรี่จะเข้าร่วมในการสืบสวน “ในขณะนี้มีอีกหลายๆ คนเริ่มทำสิ่งนี้เช่นกัน และไม่มีใครที่ทำคดีแช่แข็งมาก่อน เท่าที่ฉันรู้” คุณ Hammer กล่าว “ในความจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแจ้งเตือนใน Outlook เป็นรายปีเพื่อสอบถามทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติว่าพวกเขามีวิธีการอะไรใหม่ๆ ในการวิเคราะห์หลักฐานเหล่านี้หรือไม่”
ระบบวิเคราะห์คดีแช่แข็งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังความสามารถระบบ AI นั้นเป็นผลิตผลมาจากหน่วยงาน Q หน่วยงานของตำรวจดัตช์ที่พยายามจะเข้าถึงจุดหลักในการสืบสวนด้วยโซลูชันนวัตกรรม หนึ่งในสิ่งที่สำเร็วคือการทำปฏิทินคดีแข่งแข็ง ซึ่งเป็นการรับผู้ต้องขังในเรือนจำในการจัดหาเบาะแสที่จะช่วยแก้ไขคดีความได้
“ระบบอย่างนี้จะช่วยให้พวกเราสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ในอนาคต อย่างเช่น การมองเห็นการเชื่อมโยงระหว่างคดีต่างๆ ได้” คุณ Roel Wolfert ผู้เชี่ยวชาญการสืบสวนสอบสวนกล่าวในองค์กรข่าวสาร NOS “บางทีพวกเราจะสามารถนำไปใช้กับคดีปัจจุบันได้เช่นกัน”