นักวิจัยเผยว่า สายรัดข้อมือสุขภาพจะช่วยให้แพทย์เข้ามาช่วยเหลือได้ทันท่วงทีก่อนที่ผู้ป่วยจะถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สายรัดข้อมือสุขภาพเจ้าดังอย่าง Fitbit มีศักยภาพที่จะช่วยให้แพทย์คาดการณ์ได้ว่าผู้ป่วยคนไหนจะผ่านการทำเคมีบำบัดไปได้ด้วยดี และเข้ามาช่วยได้ทันเวลาก่อนที่ผู้ป่วยจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแบบคาดไม่ถึง
นักวิจัยกล่าวว่า ในอนาคตหมอจะสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ในหลายวิธี เช่น คาดการณ์ว่าผู้ป่วยคนไหนจะมีอาการทรุดลงจากการรักษา ซึ่งมีผลงานวิจัยนำเสนอที่การประชุมสมาคมอเมริกันเพื่อเนื้องอกวิทยาทางคลินิก (American Society of Clinical Oncologists) ในรัฐชิคาโก
Jorge Nieva หนึ่งในผู้วิจัยจาก the University of Southern California กล่าวว่า “สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ เราสามารถเก็บข้อมูลมาตรวัดพฤติกรรมของผู้ป่วยได้ด้วยการใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย” เขายังเสริมอีกว่า ตัวเทคโนโลยีอาจจะผนวกผู้ป่วยเข้าสู่ระบบ IoT ซึ่งรวมถึงสิ่งของภายในบ้านหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อออนไลน์ต่างๆ
นักวิจัยมะเร็งก็มุ่งความสนใจไปที่ Fitness tracker โดยมองว่าตัวอุปกรณ์สามารถวัดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ซึ่งตามรายงานของ Bloomberg นั้น นับตั้งแต่ธันวาคม ปี 2558 มีการทดลองรักษาเกือบ 300 ครั้งที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลจาก Fitness tracker นี้
การทดลองใหม่สังเกตผู้ป่วยมะเร็งทั้งสิ้น 65 รายที่อาการทรุดลงจากผลข้างเคียงของเคมีบำบัด เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน นักวิจัยได้วัดการเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงเวลา 10 โมงถึง 1 ทุ่ม เป็นเวลา 60 วัน โดยใช้สายรัดข้อมือ Microsoft และเก็บข้อมูลผ่านแอปสมาร์ทโฟน พบว่าเก็บข้อมูลได้จากผู้ป่วย 41 คน หรือนับเป็น 2 ใน 3 ของกลุ่ม ซึ่งกลุ่มนี้ใส่สายรัดข้อมือเป็นเวลาประมาณ 2 ใน 3 ของช่วงทำวิจัย สามารถนับก้าวในแต่ละวันของทั้งผู้ป่วยที่มีการเคลื่อนไหวเป็นประจำและผู้ที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,564 ก้าว และ 2,261 ก้าว ตามลำดับ
มีเพียง 9 รายจากผู้ป่วย 41 รายที่มีการเคลื่อนไหวมากกว่า 60 ชั่วโมง เช่น ตื่นนอน ทำกับข้าว หรือทำความสะอาด เป็นเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงทุกๆ สามวัน ซึ่งทำให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความเสี่ยงน้อยลงที่ต้องเข้ารับการรักษาในเวลาที่คาดไม่ถึง “อย่างมีนัยสำคัญ”
Jane Maher หัวหน้าแพทย์แห่ง Macmillan Cancer Support กล่าวว่า “มันน่าตื่นเต้นที่เทคโนโลยีง่ายๆ นี้จะมีศักยภาพที่ส่งผลในเชิงบวกต่อคุณภาพชีวิตและอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยจากการเข้ารับเคมีบำบัด แต่อย่างไรเสีย การใช้เทคโนโลยีจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของภาพรวม สำคัญคือเราต้องมีความเข้าใจถึงผลข้างเคียงของเคมีบำบัดที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้น การสนับสนุนและรับฟังผู้ป่วยนั้นจึงสำคัญต่อการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยรวม”
นักวิจัยมะเร็งกำลังศึกษาว่าสายรัดข้อมือสุขภาพนี้จะเป็นมาตรวัดคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้หรือไม่ โดยนักวิทยาศาสตร์จาก Johns Hopkins University, Dana-Farber Cancer Institute และ MD Anderson Cancer Center ทั้งหมดได้เก็บข้อมูลจาก Fitabase ผลิตภัณฑ์ของ Fitbit โดยในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญหวังว่าจะสามารถตรวจสอบระดับการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยได้แบบทันที (real-time) ผ่านทาง Fitness tracker บนข้อมือของผู้ป่วยแม้ว่าผู้ป่วยจะสวมสายรัดอยู่จากที่ไกลก็ตาม