Samsung ได้ออกมาประกาศว่า บริษัทจะใช้พลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์ในโรงงานและออฟฟิศของบริษัททั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน นับเป็นครั้งแรกที่ Samsung ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะเรื่องพลังงานทดแทนนี้
องค์กรกรีนพีซและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมได้ออกมาเรียกร้องกับทาง Samsung มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งได้เริ่มหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนกันแล้ว
Samsung กำลังเริ่มดำเนินการภายในองค์กรของบริษัทที่ควบคุมจัดการได้ง่ายก่อน นั่นคืออาคาร โรงงาน และออฟฟิศของบริษัท โดยมีอาคารทั้งหมดจำนวน 17 แห่งจาก 38 แห่งที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน
Insung Lee ผู้รณรงค์กลุ่ม Greenpeace กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “Samsung Electronics เป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าแห่งแรกในทวีปเอเชียที่ตั้งเป้าหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งการให้คำมั่นสัญญานี้จะส่งผลกระทบอย่างยิ่งในการลดการสร้างมลภาวะจากการผลิต และยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเข้าร่วมจากอุตสาหกรรมในการช่วยลดการปล่อยมลพิษและเร่งขับเคลื่อนเข้าสู่ยุคพลังงานหมุนเวียน ซึ่งอีกหลายบริษัทก็ควรปฏิบัติตามและวางแนวทางการใช้พลังงานทดแทน อีกทั้งรัฐบาลก็ควรสนับสนุนนโยบายที่ช่วยให้บริษัทจัดหาพลังงานทดแทนได้โดยง่าย”
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน แต่อาคารเหล่านี้จะขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2563 ทาง Samsung เองเสริมว่า บริษัทจะใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นในประเทศอื่นๆ ในเบื้องต้น Samsung มีแผนที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่จังหวัดคย็องกี (Gyeonggi) ในประเทศเกาหลีใต้
เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ทาง Samsung นั้นก็ทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายอื่นหลายพันราย ดังนั้น การใช้พลังงานทดแทนแค่ในองค์กรนั้นก็คงไม่เพียงพอ ทั้งนี้ Samsung ก็เริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อน และร่วมมือกับโครงการ Carbon Disclosure Project Supply Chain Program โดยขั้นแรก บริษัทต้องการระบุความต้องการการใช้พลังงานของผู้จำหน่าย 100 รายแรก และช่วยให้บริษัทเหล่านั้นหันมาใช้พลังงานทดแทน ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่ใช้เวลาหลายปี และจะเป็นตัวชี้วัดความก้าวหน้าของ Samsung ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ถือว่าเป็นข่าวดีที่ได้เห็นว่าบริษัทผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง Samsung เริ่มตื่นตัวที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้