ในการลงทุนขนาดใหญ่ ผู้ลงทุนย่อมคาดหวังผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล และในการลงทุนกับระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อความสำเร็จและประสิทธิภาพของธุรกิจอย่างมาก ธุรกิจก็ยิ่งต้องศึกษาและวางแผนให้รอบคอบถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความสามารถในการแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง การใช้งาน จวบจนการดูแลรักษาระบบ ทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมงาน NEC ผู้มีประสบการณ์ในการติดตั้งและดูแลระบบ SAP Business One มายาวนาน และได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจที่กำลังมองหาระบบ ERP อยู่
รู้จักกับ NEC ในบทบาทของผู้ให้บริการโซลูชัน IT แก่ภาคธุรกิจ
โดยทั่วไปหากนึกถึงชื่อของ NEC แล้วเรามักจะนึกถึงแบรนด์ของเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ และอื่นๆ แต่อันที่จริงแล้ว NEC นั้นถือเป็นผู้ให้บริการและพัฒนาเทคโนโลยีรายใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มีโซลูชันครอบคลุมตอบโจทย์ทั้งฝั่ง B2C และ B2B ได้อย่างครบถ้วน โดยในฝั่ง B2B นั้นนอกจากจะมีธุรกิจในส่วนของเทคโนโลยีด้าน Unified Communications หรือ IP PBX แล้ว ทาง NEC เองก็ยังมีบริการ Systems Integration แบบครบวงจร รองรับทั้งการให้บริการได้ในส่วนของ Hardware, Software และ Service ในหนึ่งเดียว
บริษัท NEC Thailand นั้นเปิดให้บริการในประเทศไทยมากว่า 55 ปีในฐานะของผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่หลากหลาย ซึ่งหลายๆ คนในไทยเองก็อาจจะไม่รู้ว่า NEC นั้นก็มีธุรกิจในส่วนที่เป็น B2B ให้บริการภาคธุรกิจโดยเฉพาะด้วยเช่นกัน NEC นั้นเติบโตจากการให้บริการกลุ่มลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นที่ขยายสาขามายังประเทศไทย และค่อยๆ ขยายฐานบริการออกมายังบริษัทอื่นๆ ในไทย ชื่อเสียงและประสบการณ์การให้บริการด้วยคุณภาพเสมอมาทำให้ NEC โดดเด่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทยอย่างมากมาย
ทั้งนี้ทาง NEC เองก็มีทีมให้บริการด้านซอฟแวร์ SAP Business One โดยเฉพาะเช่นกัน เพื่อช่วยให้เหล่าธุรกิจนั้นสามารถใช้งานระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับแต่งระบบ SAP Business One ให้สามารถเชื่อมต่อและทำงานกับระบบอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม ตอบโจทย์ Workflow ของธุรกิจที่แตกต่างกันไป และกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันที่การนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างคล่องตัวนั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็น
เบื้องหลังทีมงานด้านโซลูชัน SAP Business One ของ NEC คือทีมที่ปรึกษาผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมต่างๆ มายาวนาน โดยที่ปรึกษาแต่ละรายในทีมนั้นล้วนแต่มีประกาศณียบัตรรับรองความรู้ความสามารถจาก SAP โดยตรง ทำให้ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าการติดตั้งระบบทั้งหมดจะเป็นไปด้วยวิธีที่ดีที่สุดตามมาตรฐานของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ โดยทีมงานมีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการติดตั้งระบบ SAP Business One ให้กับลูกค้า ในหลากหลายประเภทธุรกิจ มีความคุ้นเคยกับธุรกิจในประเทศไทยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ อาหาร ค้าปลีก การศึกษา ธนาคาร หรืออุตสาหกรรมการผลิต ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยให้ทีมงานสามารถใช้โซลูชัน SAP Business One เข้าแก้ปัญหาให้กับธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด จนปัจจุบันนี้ NEC ได้มีโอกาสติดตั้งระบบ SAP Business One ให้กับลูกค้ามาแล้วมากกว่า 50 รายทั่วไทย ด้วยคติการทำงานว่า “ทุกระบบ SAP Business One จะต้อง Go Live ได้ตรงตามกำหนดและมีคุณภาพที่ดี”
SAP Business One: ซอฟต์แวร์ ERP ครบเครื่องแบบ end-to-end ที่เป็นโซลูชันหลักของ NEC
SAP Business One นั้นเป็นซอฟต์แวร์ ERP ครบวงจรที่ถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตัวโปรแกรมประกอบไปด้วยความสามารถครอบคลุมทุกส่วนงานขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ administration พื้นฐาน การจัดการด้านการเงินและการบัญชี การจัดการการผลิต ตลอดไปจนถึงการขาย และการติดต่อกับลูกค้า SAP Business One จะทำการเชื่อมต่อระบบงานของฝ่ายงานต่างๆ ของธุรกิจเข้าด้วยกัน ช่วยให้ธุรกิจเห็นชัดถึงภาพรวมของการดำเนินการ และนำข้อมูลจากฝ่ายขายไปใช้ในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากความสามารถที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว SAP Business One ยังรองรับการขยายตัวของธุรกิจทั้งในแง่การขยายตัวของจำนวนผู้ใช้และโครงสร้างขององค์กร ธุรกิจสามารถนำ SAP Business One ไปติดตั้งในบริษัทสาขาและทำการเชื่อมต่อกับระบบ ERP หลักได้อย่างรวดเร็ว
SAP Business One มีหลากหลาย module ในการใช้งาน สำหรับฝ่ายงานต่างๆ ภายในองค์กร ผู้ใช้สามารถเรียกดูข้อมูลและการดำเนินการทุกขั้นตอนหลักในองค์กรได้โดยง่ายด้วยซอฟต์แวร์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ โดย Business One มอบอิสระในการปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะสมกับธุรกิจให้กับผู้ใช้อย่างเต็มที่
NEC ในฐานะของผู้ให้บริการโซลูชันด้าน IT แบบครบวงจรนั้น ก็สามารถนำเสนอโซลูชันอื่นๆ สำหรับเติมเต็มความต้องการของระบบ SAP ในระดับองค์กรได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอระบบ Server, Storage, Network, Security หรือ Business Application อื่นๆ เพื่อให้การติดตั้งใช้งาน SAP สามารถจบได้ในแบบ One Stop Service และหากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ทาง NEC ก็พร้อมจะดูแลแก้ไขปัญหาให้ตั้งแต่ระดับ Hardware จนถึงระดับของ Application ทำให้การเลือกใช้งาน NEC สำหรับระบบ SAP Business One นั้นก็จะมีความง่ายและครบพร้อมจบในตัวได้เลยทันที
เหตุใดธุรกิจจึงควรเลือกใช้ SAP Business One?
ปัจจุบันในตลาดนั้นมีซอฟต์แวร์ ERP ให้ธุรกิจเลือกใช้อย่างหลากหลาย แต่จากประสบการณ์ของทีม NEC แล้ว ปัจจัยอันดับแรกๆที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้ SAP Business One มีดังนี้
- ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ SAP เพราะ SAP เป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์ธุรกิจ ที่เข้าใจธรรมชาติของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างดี ทำให้ได้รับความไว้วางใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อย่างกว้างขวาง
- ความครบเครื่องของ SAP Business One – ความสามารถในการทำงานร่วมและเชื่อมต่อกับกระบวนการหลักๆของธุรกิจแบบ end-to-end นั้นทำให้ซอฟต์แวร์นี้มีความโดดเด่น โดยเฉพาะกับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นนำซอฟต์แวร์ ERP เข้าไปใช้งานเป็นครั้งแรกซึ่งสามารถใช้ SAP Business One รวมทุกระบบอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวได้
- ใครก็สามารถใช้งาน SAP Business One ได้ เนื่องจาก SAP Business One ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ผู้ใช้ในองค์กรสามารถเรียนรู้การใช้งานซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะทำงานอยู่ในส่วนงานใดก็ตาม รวมถึง SAP Business One ก็รองรับการ Copy & Paste ข้อมูลจากไฟล์ Excel ได้ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำการโอนย้ายข้อมูลจากระบบอื่นๆ ได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย
- ปรับแต่งได้ตามต้องการ – SAP Business One ให้อิสระในการปรับแต่งซอฟต์แวร์กับผู้ใช้เต็มที่ ตั้งแต่การปรับแต่งในระดับผู้ใช้ เช่น การแก้ไข field ข้อมูล ไปจนถึงการเขียนโปรแกรมเพื่อมาเชื่อมต่อผ่าน API และการ Integrate เข้ากับโซลูชันอื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์ระบบ ERP ที่ตรงตามความต้องการของธุรกิจที่สุด
- มี Template ให้เริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว – SAP Business One มาพร้อมกับ Template สำหรับธุรกิจต่างๆ ให้นำไปปรับใช้งานได้ทันที ดังนั้นการติดตั้งใช้งานจึงเป็นไปได้ภายในเวลาไม่นาน ทำให้ธุกริจสามารถเริ่มต้นใช้งานระบบ ERP ได้รวดเร็วยิ่งกว่าแต่ก่อน
สำหรับโซลูชันของระบบ SAP Business One ซึ่ง NEC ได้พัฒนาขึ้นมาเองหรือมีประสบการณ์เป็นอย่างดีนั้น ได้แก่
- การพัฒนา Thai Localization ให้กับ SAP Business One เอง ทำให้ NEC สามารถทำการปรับแต่งแก้ไขตามความต้องการของลูกค้าได้
- การเชื่อมต่อระบบเข้ากับระบบ Logistics และ Supply Chain ที่มีความซับซ้อนสูงของธุรกิจไทย
- การเชื่อมต่อระบบกับระบบ e-Banking ของธนาคารไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำธุรกรรมออนไลน์ลื่นไหล ยืดหยุ่นรองรับได้หลากหลายธนาคาร
- การทำ Consignment ตอบโจทย์ค้าปลีกไทย ที่ครอบคลุมทั้งการทำ Control Inventory และการทำ Track Point โดยยังคงมีการอ้างอิงตามหลักบัญชีและระเบียบของสรรพากรได้ทั้งคู่
- การเชื่อมต่อระบบเข้ากับระบบ Inventory Management และ Warehouse Management
- การเชื่อมต่อกับระบบ Production Management ที่ใช้ Lean Production Systems
ERP ไม่ใช่เพียงซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งแล้วผ่านไป แต่เป็นระบบที่ต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างต่อเนื่องตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ
ซอฟต์แวร์ ERP เต็มตัวอย่าง SAP Business One นั้นมีความคาบเกี่ยวกับการดำเนินการในทุกขั้นตอนหลักขององค์กร ธุรกิจจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีแผนการที่ดีในการนำซอฟต์แวร์เช่นนี้เข้ามาใช้ ตั้งแต่ขั้นตอนการหารือเพื่อแก้ไขปัญหา การติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษาและแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนเหล่านี้ย่อมต้องการความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อย่างมากเพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงไปได้
เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงหลายด้าน และองค์ความรู้ขององค์กรอาจมีจำกัด การมีผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญจึงจะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ของธุรกิจได้มาก NEC เล็งเห็นปัญหานี้ของธุรกิจส่วนใหญ่ จึงออกแบบบริการติดตั้ง SAP Business One แบบ One Stop Service เข้ามาช่วยเหลือองค์กรในการติดตั้งระบบตั้งแต่ต้นจนจบ โดยทีมงานจาก NEC จะเป็นผู้ให้คำปรึกษา เสนอแนวทางการแก้ปัญหา ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินงาน ตลอดไปจนถึงติดตั้งอุปกรณ์เซิฟเวอร์ ติดตั้งซอฟต์แวร์ จนกระทั่งระบบ ERP สามารถใช้งานในธุรกิจได้ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้โดยปกติมักใช้เวลาราว 3-5 เดือน
หลังการติดตั้ง NEC จะมีฝ่ายบริการลูกค้ารับแจ้งปัญหาและให้คำปรึกษาที่ประกอบไปด้วย ERP Support และ NECARE Call ที่คอยให้บริการแบบ 24/7 ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวันของสัปดาห์ ทำให้ธุรกิจสามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็ว หมดความกังวลเรื่องปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบหลังการขาย ฝ่ายบริการลูกค้านี้เข้ามาเติมเต็มการบริการของ NEC ให้ครบวงจร ซึ่งไม่มากนักในประเทศไทยที่จะมีการให้บริการติดตั้ง SAP Business One เต็มรูปแบบเช่นนี้
ปรับแต่งด้วยวิธีการที่เหมาะสม ลดความซับซ้อนของระบบเบื้องหลัง รองรับการใช้งานได้อย่างยั่งยืน
เพราะแต่ละธุรกิจมีความต้องการและข้อจำกัดที่แตกต่าง การปรับแต่งจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับองค์กรที่นำ SAP Business One เข้าไปใช้งาน SAP Business One นั้นถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นใช้งานได้ในธุรกิจหลายรูปแบบ ทั้งการปรับแต่งโดยผู้ใช้เอง หรือการปรับแต่งในระดับซอฟต์แวร์ที่อาศัยการเขียน Code ติดต่อกับ API
อย่างไรก็ดี การปรับแต่งระบบด้วยการพัฒนา Software เฉพาะขึ้นมาใช้งานเรื่อยๆ เองนั้นก็อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเสมอไปแม้จะทำให้เราได้รับระบบที่ตรงกับความต้องการได้จริง แต่เนื่องจากในระยะยาวแล้วการดูแลรักษาระบบเหล่านี้จะทำได้ยาก และหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นก็อาจไม่สามารถรับประกันได้ว่าระบบจะยังคงทำงานได้อย่างถูกต้องในอนาคต รวมถึงหากมีการอัปเดตครั้งใหญ่จาก SAP Business One ก็จะต้องมีการทดสอบครั้งใหญ่เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบจะยังคงทำงานได้ตามต้องการ ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ระบบ IT ขององค์กรไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วทันท่วงทีต่อความต้องการทางธุรกิจ และทำให้การแข่งขันหรือการเปลี่ยนแปลงทำได้ยากขึ้นนั่นเอง
สำหรับทีมงาน NEC แล้ว ด้วยความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพและคุณภาพของ SAP Business One ทำให้พวกเขายึดแนวทางการติดตั้งโซลูชันให้มีการปรับแต่งที่ต้องเขียน Code น้อยที่สุดหรือ Low-Code Development โดยจะเน้นไปที่การปรับแต่งการใช้งานในระดับผู้ใช้ด้วยเครื่องมือที่ SAP Business One มี ผสมผสานกับความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีของ SAP Business One อย่างถ่องแท้ และการเชื่อมต่อกับโซลูชันพร้อมใช้ จากพาร์ทเนอร์แทน ซึ่งการลดการปรับแต่งให้น้อยที่สุดนี้นอกจากจะช่วยลดความผิดพลาดอันอาจเกิดขึ้นในการพัฒนาโปรแกรมเพิ่มเติมแล้ว ยังช่วยลดความยุ่งยากในการบำรุงรักษาระบบและการอัปเดตอีกด้วย
การใช้ Low-Code Development นี้ช่วยให้ NEC สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องเสียเวลาพัฒนาโปรแกรมเองมากนัก ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถลองพัฒนาความสามารถใหม่ๆ บน SAP Business One ขึ้นมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง, จัดการข้อมูลในรูปแบบที่ตนเองต้องการได้อย่างยืดหยุ่น และต่อยอดในอนาคตได้อย่างมั่นใจว่าระบบจะไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นแม้จะมีการอัปเกรดระบบครั้งใหญ่ก็ตาม
ส่วนในแง่ของการทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ที่ธุรกิจต้องการนั้น ทีมงาน NEC เชื่อมั่นว่าโดยทั่วไปแล้วนั้น การปรับแต่งในระดับผู้ใช้ เช่น การเพิ่ม field ข้อมูล หรือการกำหนดรูปแบบข้อมูล และการเพิ่มความสามารถให้กับระบบด้วยโซลูชันจากพาร์ทเนอร์ที่ NEC มีอยู่ เช่น โซลูชันสำหรับการจัดการคลังสินค้า โซลูชันเฉพาะสำหรับการผลิตด้วยแนวคิด kanban หรือโซลูชันเชื่อมต่อกับ PoS System สำหรับการชำระเงิน ก็สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างเต็มที่แล้ว การรักษาความเรียบง่ายของระบบจึงเป็นแนวทางที่พวกเขายึดถือมาตลอด
คิดให้รอบคอบก่อนการลงทุนใน ERP
ทีมงาน NEC ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ERP นั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้งานในธุรกิจแบบตลอดเวลา ทำการหลังจากเริ่มติดตั้ง ดังนั้นการเลือกซอฟต์แวร์ ERP สักตัวหนึ่งให้กับองค์กรนั้นจึงมีปัจจัยมากมายที่แตกต่างจากการเลือกซอฟต์แวร์ประเภทอื่นๆ ดังนั้น ธุรกิจจึงควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจ และไม่ลืมพิจารณาปัจจัย เช่น ความเข้ากันได้กับระบบอื่นๆ ในองค์กร การต่อยอดระบบในอนาคต การเตรียมการบำรุงรักษาระบบ มาตรฐานความปลอดภัย และอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบที่กำลังจะนำเข้ามาใช้นั้นจะสามารถตอบสนองต่อความต้องการด้านต่างๆ ของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ได้จริง ใช้งานได้อย่างยั่งยืน และในขณะเดียวกันก็ทำงานเชื่อมต่อกับขั้นตอนต่างๆ ขององค์กรได้อย่างดีเยี่ยม
เกี่ยวกับ NEC
NEC Corporation (Thailand) คือบริษัทผู้จำหน่ายอุปกรณ์ไอที และให้บริการด้านเครือข่ายและโซลูชันไอทีสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ NEC เริ่มก่อตั้งในประเทศไทยมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2505 ทำให้ทีมงานมีความคุ้นเคยกับธุรกิจในประเทศไทยและมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมไทยเป็นอย่างดี
ปัจจุบัน NEC เปิดให้บริการทางด้านไอทีและเทคโนโลยีที่หลากหลายแก่ลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ SAP ที่ได้กล่าวไปข้างต้น การวางเครือข่ายโทรศัพท์, บริการติดตั้งแพลตฟอร์มไอที, Digital Signage, โซลูชันสำหรับธุรกิจค้าปลีก (POS), การรักษาความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) และบริการอื่นๆ อีกมากมาย โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อทีมงาน NEC ได้ที่ NEC Care: (+66) 0-2204-9600 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://th.nec.com