ปีที่ผ่านมาเราคงหนีไม่พ้นเพลงเด็กที่ฮิตติดหูอย่าง “Baby Shark” ถึงกับตามหลอกหลอนบรรดาพ่อแม่ไปเกือบทุกที่ เพลงนี้กลายเป็นกระแสไวรัลจนติดบิลบอร์ด 100 เพลงฮิต ซึ่งนั่นหมายความว่าเพลงนี้คงจะวนเวียนอยู่ไม่หนีไปไหนอีกสักระยะแน่นอน
เพลงนี้ติดอันดับที่ 32 ในชาร์ต นำหน้าเพลง Imagine ของ Ariana Grande ไปแล้ว ตอนนี้มียอดชมบน YouTube มากกว่า 2.1 พันล้านครั้ง กลายเป็นหนึ่งในวีดีโอ 30 คลิปที่มีจำนวนผู้ชมมากที่สุดตลอดกาล จากข้อมูลของ Billboard มีผู้ฟังเพลง Baby Shark ถึง 20.8 ล้านครั้งในเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง 73 เปอร์เซ็นต์นั้นมาจากการรับฟังผ่านวีดีโอ
ตัวคลิปวีดีโอเพลงเป็นสิ่งที่ทำให้เพลงนี้เป็นกระแส ซึ่งความนิยมดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดภาพประกอบดนตรีที่เด็กๆ ดูแล้วรู้สึกติดอกติดใจ และนี่จึงเป็นเรื่องสำคัญของวงการเพลงเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนชาร์ตเพลงนั้นดูจากยอดขายเทปซีดี แต่พอมีการขายเพลงผ่านช่องทางดิจิทัล การเปิดเพลงให้ฟังได้ทางออนไลน์ และการชมวีดีโอเพลง ก็ทำให้เกิดตลาดที่นอกเหนือไปจากการขายซีดีแบบดั้งเดิม จึงทำให้เราเห็นตลาดเพลงอื่นๆ มีเพลงฮิตติดชาร์ตได้เหมือนกัน
ในปี 2555 ตั้งแต่ Billboard เริ่มนำการฟังเพลงทางออนไลน์มาพิจารณาดูความนิยม เราก็ได้เห็น Psy และเพลง Gangnam Style กลายมาเป็นเพลงที่มีอิทธิพลแห่งยุคสมัย ทาง Billboard และ Nielsen SoundScan ก็เริ่มนำบริการฟังเพลงที่มีการเก็บค่าบริการ เช่น Spotify และ Apple Music มาเป็นตัวเลขวัดค่าความนิยมในชาร์ตด้วย ผลลัพธ์ก็คือชาร์ตเพลงก็จะตกเป็นของใครก็ได้ และนั่นก็มีศักยภาพพอที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมความนิยมไปทั้งหมด
หลังจากความสำเร็จของเพลง Baby Shark แล้ว Pinkfong USA บริษัทด้านการศึกษาผู้อยู่เบื้องหลังเผยว่า มีแผนที่จะต่อยอด Baby Shark ให้กลายเป็นแบรนด์ด้านความบันเทิงที่จะเป็นที่ชื่นชอบในรุ่นหลังต่อมา