ด้านทาง Volkswagen (VW) ที่มีการเชื้อเชิญเพื่อขยายขอบเขตของแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้านั้นอาจจะทำได้ดีกว่าการร่วมมือกับ Ford ในรถบรรทุกและรถตู้ โดยหัวหน้าหน่วยกลยุทธ์ของบริษัท คุณ Michael Jost ได้ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทกำลังต้องการทำให้แพลตฟอร์ม MEB (ภาษาเยอรมัน Modularer Elektrobaukasten) ให้กลายเป็นมาตรฐานนอกเหนือจากรถยนต์ของกลุ่ม VW เอง ซึ่งเขายังได้บอกว่าได้มีการหารือกับคู่แข่งบายรายไปบ้างแล้ว
คุณ Jost ได้อธิบายถึงกลยุทธ์นี้เปรียบเสมือน “paradigm shift” สำหรับทาง VW ซึ่งมันดูสมเหตุสมผลสำหรับโฟกัสโดยรวมของบริษัท ทั้งที่รู้ดีว่าจะทำให้การซื้อรถเป็นของตัวเองนั้นอาจจะลดลงไปเนื่องจากมีการขับขี่ร่วมกัน (ridesharing) และยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving vehicle) มากขึ้น แต่ด้วยการที่บริษัทกำลังพัฒนาบริการการเคลื่อนที่อย่างสะดวก (mobility services) ที่จะมีความสำคัญอย่างมากต่ออนาคตบริษัท จึงทำให้การแชร์เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ไม่ใช่ประเด็นถ้าหากว่ามันได้กลายเป็นพื้นฐานของบริการเรียกรถยนต์ทั่วโลกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่ามันได้ทำให้มีส่วนแบ่งจากรถยนต์ทุกๆ คันที่ผลิตออกมา
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารยังได้ยืนยันว่าจะมีโมเดลรถยนต์ไฟฟ้าออกมาภายในปี 2566 หรือ 2567 ที่จะมีราคาน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น I.D. ซึ่งอาจมีราคาน้อยกว่า 20,000 ยูโร โดยจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ รุ่น T-Roc crossover ของ VW เนื่องจากบริษัทต้องการที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งหมายความถึงการทำให้ราคาอยู่ในจุดที่ผู้คนที่ใช้รถยนต์ปัจจุบันนั้นสามารถเข้าถึงได้นั่นเอง
Source : https://www.engadget.com/2019/01/30/vw-may-open-electric-car-platform-to-competitors/