เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกของโลกที่แจ้งประกาศเด็กหาย (Amber alert) บนหน้าจอเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งจะแสดงภาพของเด็กที่หายไปเป็นภาพสกรีนเซฟเวอร์บนหน้าจอตู้เอทีเอ็ม 300 กว่าเครื่องทั่วประเทศ โดยเริ่มจากการประกาศผ่านทางเครื่องที่สนามบินและศูนย์การค้า และจะขยายไปสู่ตู้เอทีเอ็มแห่งอื่นๆ ในเวลาต่อมา
ตู้เอทีเอ็มจะแสดงข้อความแจ้งฉุกเฉินสองประเภท คือ Amber alert เมื่อได้รับการแจ้งว่าเด็กหายและอยู่ในอันตราย และอีกประเภทคือ Vermist Kind alert ซึ่งเจ้าหน้าที่เป็นผู้ออกประกาศเมื่อกังวลถึงความเป็นอยู่ของเด็กที่หายไป ในประกาศทั้งสองประเภทนี้ เครื่องเอทีเอ็มจะแสดงภาพของเด็กหายพร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่ช่วยให้ค้นหาตัวเด็กได้ หากไม่มีประกาศเด็กหาย ตู้เอทีเอ็มก็จะแสดงโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนลงชื่อรับการแจ้งเตือนเด็กหายทางโทรศัพท์
Amber alert มีมาตั้งแต่ช่วงปี 1990 และขยายการใช้งานมาอย่างต่อเนื่องตามการพัฒนาของเทคโนโลยี ในปี 2559 หน่วยงานกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของสหรัฐ (US Federal Communications Commission) ได้เห็นชอบต่อการขยายระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินแบบไร้สายที่ทำให้ข้อความฉุกเฉิน รวมถึง Amber alert ส่งไปยังมือถือโดยตรง แม้แต่บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Waze และ Google ก็นำการแจ้งเตือนดังกล่าวผนวกเข้ากับบริการบนแพลตฟอร์มของตนด้วย