Ford ยืนยันจะสร้างรถยนต์โดยใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าของ VW

0
https://o.aolcdn.com/images/dims?quality=85&image_uri=https%3A%2F%2Fo.aolcdn.com%2Fimages%2Fdims%3Fresize%3D2000%252C2000%252Cshrink%26image_uri%3Dhttps%253A%252F%252Fs.yimg.com%252Fhz%252Fen_us%252FNews%252FReuters%252F99cdc339fe41c2d795d67a05e853c860%26client%3Da1acac3e1b3290917d92%26signature%3D24f18427746db1455d0e43a1befe0e3cb745a162&client=amp-blogside-v2&signature=313d95c4cfbb0b20431d4051d09e05cdea60a51f

ข่าวลือก่อนหน้านี้ก็ได้ประกาศออกมาเป็นทางการแล้ว โดย Ford กำลังจะใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าของ VW ที่มีชื่อว่า MEB เพื่อใช้ทำยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในบางรุ่นแล้ว โดยการประกาศนี้ได้ต่อจากข้อตกลง “พันธมิตรสากล (global alliance)” ที่ทั้งสองได้ประกาศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ทาง Ford กล่าวว่าจะใช้แพลตฟอร์ม MEB ของ VW เพื่อสร้าง “ยานพาหนะไฟฟ้าความจุขนาดใหญ่อย่างน้อย 1 รุ่น”ในยุโรป โดยจะ”เริ่มต้นในปี 2566” ซึ่งเฟรมเวิร์ก MEB นั้นได้ถูกนำมาใช้งานในยานพาหนะไฟฟ้าที่เพิ่งปล่อยออกมาในหลายๆ รุ่นของของ Volkswagen และแบรนด์ลูกบ้างแล้ว และ Ford นั้นจะเป็นบริษัทภายนอกเจ้าแรกนอกจากบริษัท e.GO Mobile AG สตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมันที่จะใช้แพลตฟอร์ม MEB นี้

Ford หวังวาจะสามารถขายยานพาหนะที่ใช้เฟรมเวิร์ก MEB ได้ 600,000 คันภายในช่วงเวลา 6 ปี โดยโมเดลที่ 2 ที่จะออกแบบมาสำหรับยุโรปนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการหารือภายในบริษัท “สิ่งนี้จะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ฝั่งยุโรปของ Ford ซึ่งจะยังเน้นที่จุดแข็งของบริษัท เช่น ยานพาหนะเชิงพาณิชย์ รถ crossovers และแบรนด์รถนำเข้าอย่าง Mustang และ Explorer” บริษัทกล่าวในงานแถลงข่าว

ส่วน VW นั้นก็ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม MEB มาตั้งแต่เมื่อปี 2559 ซึ่งหวังว่าจะสามารถสร้างรถยนต์ที่ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวให้ได้ถึง 15 ล้านคันภายใน 10 ปีข้างหน้านี้ โดยในนั้นได้รวมไปถึงรถบัสเล็กไฟฟ้า I.D. Buzz และรถแฮตช์แบค ID.3 ด้วย

Soource : https://www.engadget.com/2019/07/12/ford-vw-electric-meb-argo-ai-cars/