การเพิ่มที่อยู่ใหม่เข้าไปยังแอปแผนที่บนมือถือสามารถทำได้ง่ายภายในไม่กี่วินาที แต่สถานที่อย่างเขตชนบทในประเทศบังกลาเทศและอินโดนีเซียนั้น ยังมีถนนมีนับหลายล้านไมล์ที่ยังไม่ปรากฏบนแผนที่ Facebook จึงหวังว่าเทคโนโลยี AI ของบริษัทจะช่วยให้อาสาสมัครบน OpenStreetMap (OSM) เพิ่มแผนที่ได้ง่ายขึ้น
บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ได้ประกาศวันนี้ว่าจะเปิดแผนที่พร้อมเครื่องมือ AI สู่ชุมชน OSM ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ใครก็ได้ใช้เครื่องมือนี้ระบุพื้นที่ในอัฟกานิสถาน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย เม็กซิโก ไนจีเรีย แทนซาเนีย และยูกันดาได้ บริษัทหวังว่าจะขยายเครื่องมือแผนที่นี้ให้ใช้งานได้ทั่วโลกอีกด้วย
แผนที่ระบบ AI ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ในการจับภาพจากภาพดาวเทียม ระบบจะระบุถนนและแสดงให้เห็นเด่นชัดบนแพลตฟอร์ม OSM ซึ่งดูเป็นเรื่องซับซ้อนกว่าที่ควรจะเป็น ตัวอย่างเช่นถนนในแทนซาเนียนั้นดูต่างจากถนนในเชียงใหม่ของไทย ถนนมีขนาดและสีที่หลากหลาย อาจถูกบดบังด้วยต้นไม้ หรือดูคล้ายทางน้ำไหลที่แห้งแล้วก็ได้
Facebook จึงแก้ปัญหานี้โดยการสร้างโมเดลโครงข่ายประสาทเทียมที่รู้จักถนนในภาพดาวเทียมด้วยความคมชัดสองตารางฟุตต่อพิกเซล ระดับความละเอียดนี้ทำให้ระบบตรวจพบถนนที่ไม่ได้ลาดปูหรือทางเดินที่ไม่ได้ลาดปู และแยกออกจากกำแพงหรือทางน้ำไหลปกติ ท้ายสุดก็จะมีอาสาสมัครบน OSM เป็นผู้ตรวจสอบอีกที
นอกจากแผนที่ระบบ AI แล้ว Facebook ยังเปิดตัว RapiD editor ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจจับถนนจากภาพดาวเทียมอัตโนมัติและเพิ่มการตรวจสอบข้อมูล RapiD จึงช่วยให้ผู้สร้างแผนที่เพิ่มและแก้ไขถนนใหม่ได้รวดเร็วขึ้น
Facebook ได้ใช้งาน OSM ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลแผนที่แบบ open-source ที่ใหญ่ที่สุดของโลก สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานแผนที่ เช่น Check-ins, Marketplace และ Facebook Local ปีที่แล้วบริษัทได้เริ่มขยายทีมพัฒนา Maps โดยจ้างนักวิเคราะห์เชิงคุณภาพเพื่อตรวจสอบข้อมูลบน OSM
ในส่วนของแผนที่ระบบ AI นี้ พบว่าเครื่องมือมีประสิทธิภาพในการช่วยให้ผู้สร้างแผนที่สร้างแผนที่ได้รวดเร็วและแม่นยำ Facebook ได้ร่วมงานกับชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทยและอินโดนีเซียมาเป็นเวลาสองปีเพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่ยังไม่ลงแผนที่ ภายในเวลาเพียง 18 เดือนก็สามารถวาดแผนที่ได้ทั่วทั้งประเทศไทย และอีก 90 เปอร์เซ็นต์ในอินโดนีเซีย หากไม่มี AI อาจต้องใช้เวลาถึง 5 ปีก็เป็นได้