Uber กำลังทดสอบอีกฟีเจอร์ใหม่ที่ให้คนขับในแคลิฟอร์เนียกำหนดค่าโดยสารเองได้ ซึ่งสามารถตั้งค่าโดยสารได้สูงสุดถึง 5 เท่าของราคาปกติที่กำหนดโดย Uber
ตามรายงานของ The Wall Street Journal การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้อนุญาตให้ผู้ขับเพิ่มค่าโดยสารได้ 10 เปอร์เซ็นต์ จนถึง 5 เท่าของราคาฐานที่ Uber ตั้งไว้ ฟีเจอร์ใหม่นี้ได้สร้างระบบการเสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคนขับที่ตั้งราคาไว้ต่ำกว่าก็จะได้ลูกค้าก่อน เมื่อมีความต้องการสูงขึ้น คนขับที่ได้ตั้งค่าราคาสูงก็จะถูกจับคู่กับผู้โดยสารด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ การทดลองยังถูกจำกัดเฉพาะคนขับจากสนามบินใน Santa Barbara, Palm Springs และ Sacramento ทั้งนี้ Uber ต้องการทดลองในเมืองเล็กๆ ในแคลิฟอร์เนียก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ใช้งานได้ทั่วรัฐไปจนถึงตลาดขนาดใหญ่ขึ้นอย่างลอสแองเจลิสหรือซานฟรานซิสโก
ระบบกำหนดค่าโดยสารเองนี้ทำให้ผู้ขับมีอิสระมากขึ้นในการรับงานตามกฎหมายแรงงาน Assembly Bill 5 ของรัฐ เป้าหมายของ Uber คือจัดประเภทคนขับเป็นคู่สัญญาอิสระที่ Uber เพียงช่วยเชื่อมกับผู้โดยสารเท่านั้น การจัดประเภทคนขับว่าเป็นพนักงานอาจทำให้บริษัทต้องชำระเงินถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์ต่อปีเนื่องจากต้องให้สวัสดิการต่างๆ เช่น การันตีค่าแรงขั้นต่ำ การทำงานนอกเวลา ประกันว่างงาน และค่าชดเชยสำหรับพนักงาน
ก่อนหน้านี้ Uber ได้ประกาศว่า คนขับ Uber ในแคลิฟอร์เนียจะมีข้อมูลการเดินทางมากขึ้นก่อนที่จะรับผู้โดยสารขึ้นมา ทั้งเรื่องระยะเวลาเดินทาง ระยะทาง จุดเป้าหมาย และค่าโดยสารโดยประมาณ ผู้ขับในแคลิฟอร์เนียสามารถปฏิเสธคำขอโดยสารได้โดยไม่มีบทลงโทษใดๆ นอกจากนี้ผู้โดยสารในแคลิฟอร์เนียจะทราบช่วงราคาค่าโดยสารโดยประมาณแทนที่จะเป็นตัวเลขแน่ชัด ซึ่งราคาสุทธิอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามระยะทางและระยะเวลาของการเดินทาง ผู้โดยสารยังสามารถเลือกคนขับคนโปรดแล้วเรียกใช้บริการอีกได้ด้วย